Love on the Road: แจกแพลนเที่ยวในนิวซีแลนด์ ขับรถบ้านเที่ยวชิลๆ ฉบับคู่รักและเพื่อนสนิท

ประเทศนิวซีแลนด์ถือเป็นสถานที่พักผ่อนสุดโรแมนติกที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะมาเยือนซักครั้งในชีวิต และอะไรจะดีไปกว่าการได้ดื่มด่ำกับความงดงามของประเทศนี้มากกว่าการขับรถเที่ยวชมธรรมชาติไปพร้อมกับคนรู้ใจ ลองหลับตาและจิตนาการถึงเช้าอันอบอุ่นในรถบ้านและการดูหมู่ดาวระยิบระยับในยามค่ำคืน พร้อมเพลิดเพลินไปกับความหรูหราและสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษอีกมากมาย ตั้งแต่การแชร์พื้นที่สุดอบอุ่นอย่างใกล้ชิด ไปจนถึงแอดเวนเจอร์บนท้องถนนอันแสนสนุก รวมถึงการดูแลและการทำความสะอาดรถบ้านของคุณ เราเชื่อว่าประสบการณ์เหล่านี้จะสร้างความทรงจำอันล้ำค่าและประทับใจให้คุณไปอีกยาวนานเลยทีเดียว

แพลนการขับรถเที่ยวชมเกาะใต้แห่งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ แต่คุณจะถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันแสนงดงามและการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น นอกจากนี้ การเช่ารถบ้านยังพกความคล่องตัวมาแบบเต็มคันรถ เพราะคุณสามารถคืนรถบ้านได้ทุกเมื่อ ณ จุดคืนรถของบริษัทเช่ารถ จากตรงนั้น คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้บริการขนส่งสาธารณะหรือรถยนต์เพื่อความราบรื่นในการเดินทาง ยกระดับความผจญภัยและความโรแมนติกของคุณขึ้นอีกขั้นด้วยการหาที่พักแนะนำระหว่างทาง เพื่อทำให้การเดินทางบนเกาะกีวี่ครั้งนี้สนุกและราบรื่น แต่อย่าลืมว่าบริษัทเช่ารถส่วนใหญ่มีระยะเวลาการเช่าขั้นต่ำอยู่ที่ 5 คืนนะ

ทริคการเช่ารถบ้าน #NZCampervanning:

  • ทำความคุ้นเคย/ศึกษากฎระเบียบของนิวซีแลนด์บน The Tiaki Promise ก่อนเริ่มต้นทริป
  • ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอย่าง CamperMate หรือ Rankers เพื่อดูข้อมูลการตั้งแคมป์ เช่น สถานที่ทิ้งขยะ ปั๊มน้ำมัน และซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้เคียง
  • เช็กให้มั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามแพลนของคุณ เช่น เติมน้ำมันให้เต็มถัง และเตรียมสิ่งของที่จำเป็นให้พร้อม เพื่อการเดินทางที่ราบรื่นไร้สะดุด
  • จัดกระเป๋าให้พอดี – ในเมื่อพื้นที่กระเป๋ามีจำกัด สิ่งที่สำคัญคือคุณต้องจัดกระเป๋าให้มีประสิทธิภาพ และพยายามอย่าแพ็คของมากจนเกินไป

วันที่ 1 เมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch)

ช่วงเช้าและช่วงบ่าย

  • เพลิดเพลินไปกับวันสบายๆ ที่เมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) เริ่มต้นทริปไปกับการทัวร์เมืองที่รวมเอาความมีชีวิตชีวา ความทันสมัย และนวัตกรรมสุดสร้างสรรค์เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว พร้อมดื่มด่ำไปกับมนต์เสน่ห์ของบรรยากาศเมืองนี้ด้วยการนั่งรถบัส 2 ชั้น (Doble-Decker Bus), ปั่นจักรยานวินเทจชมเมือง, ซึมซับวิวทิวทัศน์อันสวยงามบนกระเช้า Gondola, สัมผัสบรรยากาศเมืองด้วยการนั่งรถราง (Trams), ร่องเรือท้องแบนสมัยเอ็ดเวิร์ดสุดคลาสสิก หรือ Waka on the Avon ต่อด้วยการเดินเที่ยวชมเมืองสุดชิค พร้อมสำรวจบาร์ ร้านอาหาร และร้านค้าบูติกต่างๆ

ช่วงเย็น

  • จบวันอย่างสมบูรณ์แบบด้วยการเยี่ยมชมตลาดริมแม่น้ำที่ Riverside Market ตลาดในร่มแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเอวอน (Avon River) ในใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) ที่เปิดให้ทุกคนมาเดินเล่นกันอย่างจุใจถึง 7 วันต่อสัปดาห์ และคุณสามารถเดินต่อไปยังร้านค้าบูติก ร้านอาหาร โรงเรียนสอนทำอาหาร ร้านกาแฟ และบาร์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
  • หรือเดินชมวัฒนธรรมของชาวกีวี่ไปพร้อมกับทัวร์ Amiki??miki Tours คือหนึ่งในวัฒนธรรมอันอบอุ่นของชาวเผ่าเมารี (M?ori) ที่ใช้ในการต้อนรับผู้มาเยือน (Manaakitanga) ผสมผสานกับความรู้อันเต็มเปี่ยมจากทัวร์ไกด์อย่างคุณรีวาย (Riwai) ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ แผงขายในตลาด หรือรถขายอาหารทุกแห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าทึ่งเสมือนสมาชิกในครอบครัวเลยทีเดียว พร้อมลิ้มรสกับไค (Kai) อาหารประจำชาตินิวซีแลนด์ที่จะสร้างความประทับใจให้คุณไปอย่างยาวนาน

ที่พัก

  • The Observatory Hotel สัมผัสประสบการณ์แห่งการพักผ่อนที่ผสานรวมความร่วมสมัยอย่างลงตัว ณ โรงแรม The Observatory Hotel ตั้งอยู่ในใจกลางย่านที่รายล้อมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ด้วยห้องพักที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์จำนวน 33 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ในท้องถิ่นที่มอบประสบการณ์สุดพิเศษอันน่าจดจำ ไม่ว่าคุณจะเพลิดเพลินกับการออกกำลังกายในฟิตเนส หรือผ่อนคลายใน Library Bar สุดชิค โรงแรมแห่งนี้ขอชวนคุณและคนรักมาดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์และความหรูหราร่วมสมัยที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน

วันที่ 2 เมืองเกรย์เมาท์ (Greymouth), ชายฝั่งตะวันตก

ช่วงเช้า

  • รับรถบ้านหรือรถเช่าแล้วออกเดินทางจากเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) ไปยังเมืองเกรย์เมาท์ (Greymouth) ด้วยระยะทางประมาณ 243 กิโลเมตร (ประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที) ระหว่างขับรถอย่าลืมที่จะชิดซ้ายของถนนและสังเกตสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงด้วยนะ
  • เมืองเกรย์เมาท์ (Greymouth) ถือเป็นสถานที่ที่เลื่องลือไปด้วยประวัติศาสตร์ ทั้งการล่าหยก ขุดทอง และแม่น้ำอันน่าทึ่ง พร้อมดื่มด่ำไปกับมรดกอันน่าสนใจ ลิ้มรสเบียร์ท้องถิ่น และซึมซับบรรยากาศและเรื่องราวของชายฝั่งตะวันตกอันน่าหลงใหลที่สะท้อนไปตามถนนต่างๆ ภายในเมืองแห่งนี้

ช่วงบ่าย

  • เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศช่วงบ่ายแบบสบายๆ ด้วยการชมความงดงามของประวัติศาสตร์ประจำเมือง ลิ้มรสชาติอาหารท้องถิ่น และธรรมชาติอันน่าหลงใหลที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง
  • สำรวจเมืองที่ขึ้นชื่อในเหมืองแร่ทองคำจำลองอย่าง Shantytown ที่จะพาคุณนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปสัมผัสกับเสน่ห์ของยุคตื่นทองของประเทศนิวซีแลนด์
  • หากคุณอยากจิบเบียร์ท้องถิ่นเย็นๆ ลองแวะไปที่โรงเบียร์มอนทีธส์ (Monteith’s Brewery) หนึ่งในโรงเบียร์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของนิวซีแลนด์ นอกจากคราฟต์เบียร์หลากหลายชนิดที่พกความสดชื่นมาเต็มแก้วแล้ว คุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ทัวร์โรงเบียร์ที่น่าตื่นเต้นซึ่งรวมถึงการชิมเบียร์อีกด้วย
  • สัมผัสกับธรรมชาติอันหน้าหลงใหลไปกับต้นไม้เขียวขจีที่ Point Elizabeth Track หากคุณเดินต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับจุดชมวิวบนหน้าผาแบบพาโนรามาที่คุณสามารถดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพสุดอลังการได้อย่างเต็มอิ่ม

ร้านอาหาร

  • ร้านเซเว่นเพนนี (Sevenpenny) – ไม่ว่าคุณจะอยากทานอาหารเช้าหรืออาหารจานหลักที่จริงใจอย่างเมนูแซลมอนรมควัน ร้านเซเว่นเพนนีก็พร้อมเสิร์ฟเมนูอันแสนอร่อยที่คุณต้องติดใจ
  • ร้านบัคคลีฟ ออน ฮายล์ (Buccleugh’s on High) – ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ผสมผสานความโมเดิร์นลักซูรีและความเชี่ยวชาญด้านอาหารเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นปลาไวท์เบท เนื้อกวาง และปลาคอดสีน้ำเงิน ก็ถือเป็นเมนูที่รวบรวมอาหารจานโปรดแบบดั้งเดิมและสมบัติล้ำค่าของชายฝั่งตะวันตกเข้ากันได้อย่างดีทีเดียว

ที่พัก

  • Jackson’s Retreat Alpine Holiday Park (สำหรับคู่รักที่เช่ารถบ้าน)?ไม่เพียงแต่ลานตั้งแคมป์แห่งนี้จะมีจุดบริการไฟฟ้า แต่ยังรายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้ำทารามาคาว (Taramakau River), ภูเขาแอลป์ใต้ที่ปกคลุมด้วยหิมะ (Southern Alps), น้ำตก และป่าฝนเขียวชอุ่มอันงดงามของนิวซีแลนด์ โปรดจำไว้ว่าตามกฎระเบียบของนิวซีแลนด์ คุณจะต้องจอดรถบ้านในบริเวณที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
  • Goldfield Suites ตั้งอยู่ในในกลางป่าใหญ่อันเขียวขจีบนพื้นที่ขนาด 2 เฮกตาร์ หากคุณพักที่โรงแรมแห่งนี้ คุณจะได้ดื่มด่ำกับความเงียบสงบของธรรมชาติและเพลิดเพลินกับความหรูหราที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย

วันที่ 3 ธารน้ำแข็งฟรานซ์ โจเซฟ (Franz Josef Glacier), ชายฝั่งตะวันตก

ช่วงเช้า

  • ขับรถจากเมืองเกรย์เมาท์ (Greymouth) สู่ธารน้ำแข็งฟรานซ์ โจเซฟ (Franz Josef Glacier) ออกเดินทางและเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามตระการตาระหว่างทาง ด้วยระยะทางประมาณ 172 กิโลเมตร (ประมาณ 2 ชั่วโมง 8 นาที) และเมื่อคุณมาถึงสถานที่แห่งนี้ คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับมรดกโลกอันล้ำค่า พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันงดงามของธารน้ำแข็งและพื้นที่โดยรอบได้อย่างเต็มอิ่ม

ช่วงบ่าย

  • ผจญภัยในธารน้ำแข็งฟรานซ์ โจเซฟ (Franz Josef Glacier)?ประสบการณ์ผจญภัยในครั้งนี้คุณจะได้ชมทิวทัศน์อันงดงามจากบนเฮลิคอปเตอร์และซึมซับกับเสน่ห์อันเยือกเย็นของ K? Roimata o Hine Hukatere (ธารน้ำแข็งฟรานซ์ โจเซฟ: Franz Josef Glacier) ที่เริ่มให้นักผจญภัยได้สัมผัสตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงพฤษภาคมของทุกปี เพื่อประสบการณ์อันน่าจดจำคุณจะได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารกลางวันและเครื่องดื่มท้องถิ่น จากนั้นเพลิดเพลินไปกับความมหัศจรรย์บนธารน้ำแข็งอีกประมาณ 5.5 ชั่วโมง ตามด้วยการเดินสำรวจเส้นทางสุดพิเศษและชื่นชมบรรยากาศอันงดงามของธารน้ำแข็งพร้อมกับฟังข้อมูลอันน่าทึ่งจากไกด์ผู้เชี่ยวชาญ เรารับประกันเลยว่าการเดินในครั้งนี้จะเป็นการทางที่น่าจดจำ พร้อมเปิดโอกาสให้คู่รักสามารถปรับเปลี่ยนแพลนได้ตามความต้องการท่ามกลางความสวยงามและวิวสุดอลังกาลของธรรมชาติอันน่าทึ่งนี้

ร้านอาหาร

  • ร้าน เดอะ แคนนูปี้ (The Canopy Restaurant) – ตั้งอยู่ที่โรงแรม Te Waonui Forest Retreat ซึ่งร้านอาหารแห่งนี้จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์การทานอาหารอันน่าจดจำท่ามกลางยอดไม้เขียวขจีและบรรยากาศที่เงียบสงบ ดื่มด่ำไปกับเมนูที่ถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันอย่างอาหารท้องถิ่นรสเลิศ พร้อมให้คุณได้สัมผัสรสชาติการเดินทางอันสวยงามผ่านเมนูอาหารของภูมิภาคแห่งนี้
  • ร้านบลูไอซ์ เรสเตอรองท์ แอนด์ บาร์ (Blue Ice Restaurant & Bar) – ร้านอาหารท้องถิ่นสไตล์ฟิลิปปินส์และยุโรปที่มีชื่อเสียงเลื่องลือด้านความอร่อยที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาด ด้วยที่นั่งเอ้าท์ดอร์และบรรยากาศอันแสนอบอุ่น ทำให้ร้านอาหารแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนสุดสมบูรณ์แบบหลังจากสำรวจความมหัศจรรย์ของธารน้ำแข็งฟรานซ์ โจเซฟ (Franz Josef Glacier) เลยทีเดียว

ที่พัก (สำหรับ 1 คืน)

  • Jacksons Retreat & Holiday Camping Park ลานตั้งแคมป์ที่มีจุดบริการไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวก มาพร้อมกับวิวอันน่าทึ่งของของแม่น้ำทารามาคาว (Taramakau River), ภูเขาแอลป์ใต้ที่ปกคลุมด้วยหิมะ (Southern Alps), น้ำตก และป่าฝนเขียวชอุ่มอันงดงามของนิวซีแลนด์
  • Te Waonui Forest Retreat หากคุณอยากจะพักผ่อนที่โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่พักในเมืองฟรานซ์ โจเซฟ (Franz Josef) แห่งนี้คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ ด้วยบรรยากาศที่ถูกรายล้อมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่มในฝั่งตะวันตก ยิ่งไปกว่านั้น โรงแรมแห่งนี้ยังได้รับการจัดอันดับโดย Qualmark ที่ผสมผสานการพักผ่อนอันหรูหราเข้ากับความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว

วันที่ 4 เมืองวานาคา (W?naka)

ช่วงเช้า

  • ออกเดินทางจากธารน้ำแข็งฟรานซ์ โจเซฟ (Franz Josef Glacier) สู่เมืองวานาคา (W?naka)?เมืองวานาคา (W?naka) ไม่เพียงแต่ขึ้นชื่อในเรื่องของสถานที่อันแสนงดงามและกิจกรรมเอ้าท์ดอร์อีกมากมาย แต่ยังมีชื่อเสียงในด้านอาหารและไวน์ชั้นเลิศอีกเช่นกัน เมื่อคุณมาเยือนเมืองๆ นี้ คุณจะได้พบกับบาร์ คาเฟ่ และร้านอาหารท้องถิ่นริมทะเลสาบอีกมากมาย รวมถึงช่างฝีมือและผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตไวน์ เบียร์ สุรา ขนมปัง และไอศกรีมที่ได้รับรางวัล

ทริคการเดินทาง: เนื่องจากการเดินทางจากธารน้ำแข็งฟรานซ์ โจเซฟ (Franz Josef Glacier) สู่เมืองเมืองวานาคา (W?naka) มีระยะทางที่ค้อนข้างไกลถึง 285 กิโลเมตร (ประมาณ 3 ชั่วโมง 42 นาที) เราแนะนำให้คุณพักจอดรถเป็นประจำ เพื่อยืดเส้นยืดสายและสนุกกับการเดินทางอย่างปลอดภัย เส้นทางขับรถของนิวซีแลนด์มักมีถนนคดเคี้ยวและสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ดังนั้น คุณควรที่จะขับรถด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามขีดจำกัดความเร็วด้วยนะ

ช่วงบ่าย

  • หากคุณเองก็อยากจะไปสำรวจการผจญภัยของสถานที่แห่งนี้ เราขอแนะนำ Ridgeline Adventures ที่จะพาคุณไปทัวร์ขับรถ 4WD และปิกนิกแบบเอ็กคลูซีฟฉบับคู่รัก สัมผัสความตื่นเต้นด้วยการขับรถออกนอกเส้นทางและเข้าถึงสิ่งมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ของ West W?naka และทะเลสาบ Lake Hawea ที่ตั้งอยู่ที่สถานี Dingleburn
  • หากคุณอยากสัมผัสประสบการณ์การผจญภัยอีกขั้น – ลองสำรวจทะเลสาบสีใสราวกับกระจกของวานาคา (W?naka) ด้วยการเช่าเรือคายัดและแพดเดิ้ลบอร์ดจาก Paddle W?naka ที่เปรียบเสมือนรถตู้ริมชายหาดที่พกความสะดวกสบาย พร้อมพาคุณพายเรือชิลๆ ชมบรรยากาศรอบอันเงียบสงบไปยังเกาะ Ruby อันสวยงาม และยังมีบริการเรือแท็กซี่น้ำไป-กลับอีกด้วย หรือหากคุณอยากจะพักผ่อนสบายๆ ริมทะเลสาบ Paddle W?naka ก็พร้อมให้บริการ

ร้านอาหาร

  • ฟาร์มริปปอน (Rippon) ถือเป็นที่ตั้งของไร่ไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาค เลื่องลือไปด้วยรสชาติไวน์ที่โดดเด่น และโรงกลั่นไวน์ที่ดีที่สุดซึ่งอยู่ในอันดับที่ 11 ของโลก ดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์อันยาวนานบรรยากาศอันเงียบสงบและเพลิดเพลินไปกับการชิมไวน์ชั้นดีพร้อมวิวสุดงดงามของเมืองวานาคา (W?naka)
  • ร้านฮุ๊ค (Hook) หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่แปลกใหม่ที่ได้ทั้งความสนุกและความสดอร่อย เราขอแนะนำการตกวัตถุดิบหลักด้วยตนเองอย่างการตกปลาแซลมอนจากทะเลสาบซึ่งถูกบุกเบิกโดยคนในท้องถิ่นมายาวนาน พร้อมเพลิดเพลินไปกับเมนูสุดพิเศษที่เชฟตั้งใจรังสรรค์มาให้คุณโดยเฉพาะ

ที่พัก

  • The Camp – Lake Hawea (สำหรับคู่รักที่เช่ารถบ้าน) สถานที่แห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับผู้ที่ชอบแคมป์ปิ้งและนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี 1971 The Camp มอบแพ็คเกจสุดโรแมนติกและลักซูรี่สำหรับคู่รักพร้อมมอบสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรมอย่างครบครัน นอกจากที่คุณจะได้รีแลกซ์พักผ่อนหย่อนใจจากการเดินทาง คุณจะถูกโอบล้อมไปด้วยความงดงามของทะเลสาบและวิวภูเขาอย่างเต็มอิ่ม
  • Lake Hawea Station โรงแรม The Lake House ของ Lake Hawea Station ได้รับการยกย่องใน Conde Nast Traveler Gold List ปี 2023 ด้วยความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของห้องนอนซูเปอร์คิงไซส์ 3 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง และอ่างแช่น้ำร้อนที่มาพร้อมกับวิวอันสวยงาม

วันที่ 5 เมืองวานาคา (W?naka)

ช่วงเช้า

  • วานากาสกายไดฟ์ (Skydive W?naka) สัมผัสประสบการณ์สุดเร้าใจที่คุณไม่มีวันลืมเลือนอย่างการกระโดดร่มจากความสูง 15,000 ฟุตเหนือเทือกเขาแอลป์ตอนใต้ ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ธารน้ำแข็ง ทะเลสาบ และแม่น้ำคลูธา (Clutha River) ตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งที่รายล้อมคุณแบบ 360 องศาของยอดเขา Aoraki Mt. Cook และ Mt. Aspiring ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนืออุทยานแห่งชาติ Mt. Aspiring National Park ที่ซึ่งธารน้ำแข็งได้มาบรรจบกับทะเลสาบและแม่น้ำสีฟ้าครามที่เปล่งประกายระยิบระยับ
  • ปีนผาสูงที่ Wildwire W?naka Wildwire W?naka ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์ของเมืองวานาคา (W?naka) ที่ทั้งคุณและคู่รักจะได้สัมผัสประสบการณ์ปีนเคเบิลน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก การโรยตัวลงมา และเวีย เฟอร์ราตา (via ferrata) หรือการเดินในเส้นทางการปีนผาที่ปลอดภัย

ช่วงบ่าย

  • WanaHaka(R) เรียนรู้วัฒนธรรมพื้นเมืองอันล้ำค่าไปกับ WanaHaka(R) ที่จะชวนคุณไปสัมผัสกับความลงตัวระหว่างประวัติศาสตร์ของชาวเมารีและวัฒนธรรมในปัจจุบัน (การผสมผสานวัฒนธรรมสมัยใหม่และการทัวร์ชิมไวน์) M?ori Whakatau (หรือที่แปลว่ายินดีต้อนรับสู่เมือง W?naka และ Queenstown) จะพาคุณไปมีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวเมารีในนิวซีแลนด์ ด้วยการมอบคำอวยพรที่มีความหมายของชาวเมารีแก่ความรักหรือความสัมพันธ์ของคุณ

ร้านอาหาร: 

  • ร้าน เรดสตาร์ เบอร์เกอร์ (Red Star Burger) – ร้านเบอร์เกอร์ยอดนิยม ที่ขายเบอร์เกอร์สไตล์กูร์เมต์โฮมเมดและคราฟต์เบียร์ท้องถิ่นมายาวนานกว่า 15 ปี
  • ร้านฟรานเชสก้าอิตาเลียนคิทเชน (Francesca’s Italian Kitchen) – ร้านอาหารยอดฮิตที่หากคุณไม่ได้จองล่วงหน้าคืออดแน่นอน เพราะไม่เพียงแต่ความอร่อยที่ทำให้หลายคนติดใจแต่ยังเป็นอาหารสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็น พาสต้าโฮมเมด พิซซ่าที่ออกมาจากเตาฟืนร้อนๆ ไวน์อิตาลีและไวน์นิวซีแลนด์ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ทำให้ที่นี่เป็นร้านอาหารที่คุณและคนรักไม่ควรพลาด

ที่พัก The Camp – ทะเลสาบ Hawea (สำหรับคู่รักที่เช่ารถบ้าน) หรือ Lake Hawea Station

วันที่ 6 ทะเลสาบเทคาโป (Lake Takap?), แคนเทอร์เบอร์รี่ (Canterbury)

ช่วงเช้า

  • ออกเดินทางสู่ทะเลสาบเทคาโป (Lake Takap?) ด้วยระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร หรือราว 2 ชั่วโมง 18 นาที เพลิดเพลินไปกับความงดงามและมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลที่จุดแวะถ่ายรูปอย่าง Lindis Pass และ Cromwell and Omarama อย่าลืมที่จะค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และจุดชมวิวในท้องถิ่นที่คุณชื่นชอบระหว่างทางด้วยนะ

ช่วงบ่ายและช่วงเย็น

  • ผ่อนคลายที่ Tekapo Springs Day Spa ดื่มด่ำไปกับกิจกรรมสุดรีแลกซ์จากการขับรถ และปล่อยใจไปกับเดย์สปาพร้อมคู่รักของคุณที่ Tekapo Springs นอกจากจะมีบริการทรีตเมนต์อย่างครบครันที่ออกแบบมาเพื่อมอบความผ่อนคลายสูงสุด การดูแลร่างกาย และความสวยงามแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวของสระน้ำร้อน ทะเลสาบเทคาโป (Lake Takap?) และภูเขาที่สวยเกินคำบรรยาย พร้อมให้คุณได้สัมผัสกับความผ่อนคลายอย่างเต็มอิ่ม
  • ดูหมู่ดาวที่ Tekapo Stargazing  เขตอนุรักษ์ความมืดของท้องฟ้าอาโอรากิแมคเกนซี (Aoraki Mackenzie International Dark Sky Reserve) เป็น หมุดหมายสำคัญของบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วโลกด้วยพื้นที่ประมาณ 4,300 ตารางกิโลเมตร และเป็นพื้นที่ที่ปลอดมลภาวะทางแสงทำให้สถานที่แห่งนี้ถือเป็นดินแดนสวรรค์สำหรับคนที่ชอบดูดาวเลยทีเดียว
  • Tekapo Stargazing เป็นบ่อน้ำร้อนเพียงแห่งเดียวในเกาะใต้นิวซีแลนด์ ไกด์ของคุณจะพาคุณไปยังจุดดูดาวที่ดีที่สุดในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับเรื่องเล่ามากมายผ่านการดูหมู่ดาวอันระยิบระยับกลางผืนฟ้าในยามมืดมิด

ร้านอาหาร

  • ร้านที.แอล.วี. (Tekapo Lake View) – อิ่มอร่อยไปกับอาหารสัญชาติยุโรปที่ผสานกลิ่นอายจากอาหารกรีก ซึ่งคุณและคู่รักจะได้สัมผัสกับอาหารและเครื่องดื่มอันแสนอร่อย และดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ที่ชวนหลงใหลของทะเลสาบและภูเขาแห่งนี้
  • ร้านอาหารและบาร์บลูเลค (Blue Lake Eatery and Bar) – หนึ่งในร้านอาหารท้องถิ่นเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองเทคาโป (Takap?) ที่มัดรวมความอร่อยจากอาหารนิวซีแลนด์ร่วมสมัยมาให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติอาหารสุดประทับใจ

ที่พัก

  • Lakes Edge Lodge (สำหรับคู่รักที่เช่ารถบ้าน) Lake Edge Lodge นำเสนอทิวทัศน์เทือกเขาแอลป์อันงดงามและทิวทัศน์อันตระการตาเหนือทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ที่ใสราวกระจกล้อมรอบด้วยเขตอนุรักษ์ความมืดของท้องฟ้า (Dark Sky Reserve) ที่มีชื่อเสียงของเมืองเทคาโป (Takap?) ที่มาพร้อทกับบริการห้องพักหลากหลายประเภทที่ถูกดีไซน์ให้เหมาะกับความต้องการของคุณ
  • Alpine Lodges at The Cairns Alpine Resort ค้นพบที่พักที่ดีที่สุดของทะเลสาบเทคาโป (Lake Takap?) ที่ The Cairns บ้านพักแบบอัลไพน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจสุดคลาสสิกมาจากกระท่อมของแถบแมคเคนซี (Mackenzie Region) พร้อมมอบสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันสไตล์โมเดิร์นให้คุณและคู่รักได้เพลิดเพลินตลอดการพัก

วันที่ 7 ทะเลสาบเทคาโป (Lake Takap?), แคนเทอร์เบอร์รี่ (Canterbury)

ช่วงเช้า

  • เพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นชมวิวที่ทะเลสาบเทคาโป (Lake Takap?) และโบสถ์หินเก่าแก่ Church of the Good Shepherd เดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติรอบๆ ทะเลสาบเทคาโป (Lake Takap?) ที่ถูกรายล้อมไปด้วยความงดงามของน้ำสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใสราวกระจกที่สะท้อนเงาของเทือกเขาแอลป์ตอนใต้ (Southern Alps) เดินต่อไปยังแลนด์มาร์กยอดนิยมอีกแห่งอย่าง โบสถ์หินเก่าแก่ Church of the Good Shepherd ให้คุณได้เก็บภาพบรรยากาศสวยๆ อันน่าจดจำของสถานที่แห่งนี้

ช่วงบ่าย/เย็น

  • ผจญภัยไปกับ Takapo Adventures สนุกไปกับแอดเวนเจอร์มันส์ๆ กับการทัวร์ทะเลสาบเทคาโป (Lake Tekapo Tours) ที่เราจะพาคุณไปทัวร์ขับรถ 4WD ชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งที่เป็นหัวใจหลักของเกาะใต้แห่งนี้จากนั้นไปสำรวจพื้นที่ท้องถิ่นที่ล้อมรอบไปด้วยธารน้ำแข็งระยิบระยับและภูเขาอันงดงามที่ปกคลุมด้วยหิมะ พร้อมฟังประวัติศาสตร์ ธรณีวิทยา และเรื่องราวอันน่าทึ่งของแถบแมคเคนซี่ (Mackenzie Country) จากไกด์คนขับรถ
  • ลองเสี่ยงโชคเพื่อชมแสงใต้ (The Southern Lights)?ทะเลสาบเทคาโป (Lake Takap?) ขึ้นชื่อว่าเป็นหมุดหมายที่สำคัญเมื่อคุณมาเยือนเกาะกี่วี่ในครั้งนี้ เพราะคุณจะสามารถสัมผัสประสบการณ์ของแสงออโรร่าแห่งขั้วโลกใต้ที่เปรียบเสมือนแสงเหนือในช่วงระหว่างเดือนเมษายนไปจนถึงกันยายน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีอากาศเหมาะสม ท้องฟ้าใส ปราศจากเมฆหมอก และไม่มีแสงรบกวนจากจันทรา

หากคุณมุ่งหน้าไปยังหอดูดาว Mount John ที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงและหันหน้าไปทางทิศใต้ คุณก็อาจจะมีโอกาสเห็นแสงใต้พร้อมกับดาวระยิบระยับก็ได้นะ

ร้านอาหาร      

  • ร้าน แจ็คแรบบิท (Jack Rabbit) – คาเฟ่ออร์แกนิกที่สายกาแฟไม่ควรพลาด ไม่เพียงแต่คุณจะได้ชมทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบเทคาโป (Lake Takap?) และวิวภูเขาอันกว้างไกลสุดสายตาแล้ว คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับเมนูอันแสนอร่อยที่มีตัวเลือกสำหรับทุกคนทั้งเมนูมังสวิรัติ วีแกน และอาหารที่ไม่มีกลูเตน
  • ร้านดาร์คสกายไดเนอร์ (Dark Sky Diner) – ผ่อนคลายในร้านอาหารร่วมสมัยริมทะเลสาบเทคาโป (Lake Takap?) พร้อมดูวิวสวยๆ และเพลิดเพลินไปกับอาหารรสชาติโดดเด่นและมีวิธีการปรุงอาหารแบบอเมริกาใต้แท้ๆ 

ที่พัก Lakes Edge Lodge (campervan holiday park) (สำหรับคู่รักที่เช่ารถบ้าน) หรือ Alpine Lodges at The Cairns Alpine Resort

วันที่ 8 เมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch)

  • ขับรถจากทะเลสาบเทคาโป (Lake Takap?) ไปยังเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) (2 ชั่วโมง 49 นาที) เพื่อเดินทางสู่สนามบิน และถือเป็นการจบทริปอย่างสมบูรณ์แบบ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ