พื้นที่เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดดเด่นด้วย “เจดีย์มุเตา” เจดีย์สีขาวที่มีลักษณะเอียง ทรงรามัญที่จำลองแบบมาจากพระธาตุเจดีย์มุเตา เมืองหงสาวดี เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของ “เกาะเกร็ด” ซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมถึงศิลปะที่เคยสร้างสรรค์ในอดีต โดยเฉพาะการผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สืบทอดมาจากชาวไทยเชื้อสายมอญ รวมถึงขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ และวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวมอญ
“เกาะเกร็ด” เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาเยือนทุกวัน โดยจะคึกคักมากในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เหมาะทั้งเช็กอิน ช็อป และชิม เพราะนอกจากเจดีย์เอียงสีขาวที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ บนเกาะยังมีวัดรามัญเก่าแก่สวยงาม อาทิ วัดเสาธงทอง วัดไผ่ล้อม และวัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร เป็นต้น ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์คือ หอไทยนิทัศน์เครื่องปั้นดินเผาพิพิธภัณฑ์Unseen บนเกาะเกร็ด พื้นที่นี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงเรื่องราวของเครื่องปั้นดินเผาอาชีพดั้งเดิมของชาวมอญที่อาศัยอยู่ในสยามประเทศมากกว่า 100 ปี รวมทั้ง โรงงานเครื่องปั้นดินเผาแหล่งเรียนรู้จากชาวมอญโดยแท้ และตลาดหมู่บ้านโอ่งอ่างที่มีทุกอย่างให้เลือก ทั้งของกินอาหารคาวและหวาน โดยเฉพาะขนมมงคลโบราณ มีทั้งเสน่ห์จันทร์ สัมปันนี ผกากรอง และอีกมากมาย มาเยือนเกาะเกร็ดทั้งทีของขึ้นชื่อที่ลืมไม่ได้คือ ข้าวแช่ และทอดมันหน่อกะลา
นอกจากนี้ ด้วยบรรยากาศสุดชิลกลางแม่น้ำ ได้เช็กอินฟินใกล้กรุง และความร่วมมือกันของชุมชนในการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น เพิ่มมูลค่าต้นทุนวัฒนธรรมและทรัพยากรในชุมชน ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มายลวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนชาวเกาะเกร็ดอย่างไม่ขาดสาย กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดนนทบุรี ทำให้รายได้หลักของคนบนเกาะมาจากการค้าขาย และท่องเที่ยวชุมชน รวมถึงเด็ก ๆ ที่อยากใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์หารายได้ช่วยเหลือครอบครัว นั่นคือ น้อง ๆ มัคคุเทศก์น้อยจากโรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาสที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนทูตวัฒนธรรมคอยถ่ายทอดเรื่องราว บอกเล่า นำพาให้นักท่องเที่ยวคล้อยตามไปกับวิถีชีวิตมนต์เสน่ห์เกาะเกร็ด
ด้านมัคคุเทศก์น้อยฝึกหัด ด.ญ.จรุงทิพย์ รอดพล หรือ น้องแจน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1โรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส บอกว่า “หนูเพิ่งเข้ามาทำเป็นปีแรก สนใจเป็นมัคคุเทศก์น้อยเพราะอยากช่วยพ่อแม่หาเงิน โดยมีจุดเริ่มต้นจากเห็นใบสมัครมัคคุเทศก์ก็สงสัยว่าเป็นอย่างไรจึงสมัครเข้าร่วม ฝึกทำงานมาสองเดือน แม้จะมีรายได้วันละไม่มาก แต่ก็ภูมิใจที่ทำงานหาเงินได้ตั้งแต่เด็ก” ด.ช.ชนนัช อ่อนศรี หรือ น้องไม้ มัคคุเทศก์น้อยเกาะเกร็ดรุ่นแรก นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนปรมัยยิกาวาส เล่าว่า อยากใช้เวลาว่างในช่วงวันหยุดหาเงินช่วยเหลือทางบ้าน โดยเงินที่ได้มาส่วนหนึ่งแบ่งให้ผู้ปกครอง และอีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ใช้เอง รู้สึกดีใจและภูมิใจมาก ซึ่งตอนนี้เป็นรุ่นพี่ก็จะมีหน้าที่สอนน้อง ๆ ส่งต่ออาชีพให้น้อง ๆ มีรายได้เสริม เพื่อให้มัคคุเทศก์น้อยยังอยู่คู่กับเกาะเกร็ดต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัครทีทีบี จากกิจกรรม fai-fah for Communities กิจกรรมดี ๆ ผ่านการ “ให้” ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้คนในชุมชนมีความรู้และมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการร่วมเติมทักษะอาชีพ ด้วยการเชิญชวนอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญมาสอนทักษะการเป็นมัคคุเทศก์มืออาชีพ และอาสาสมัครทีทีบีเองก็ได้เข้ามาวางแผนทำสื่อประชาสัมพันธ์ รวมทั้งสอนการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มการรับรู้และสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น นอกจาก มีการอบรมให้ความรู้เรื่องการออมด้วยการสอนเด็ก ๆ มัคคุเทศน์น้อยให้วางแผนทางการเงินให้เป็นสัดส่วน เพื่อใช้ เพื่อออมเพื่อเพิ่มความมั่นคงในอนาคตอีกด้วย
ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี มุ่งมั่นและตั้งใจเดินหน้าจุดประกายเยาวชนและชุมชน เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ติดตามกิจกรรมดี ๆ ต่อได้ที่ https://www.ttbfoundation.org
ที่มา: ชมพีอาร์