OYO ปลื้มจับมือโรงแรมพันธมิตรในไทย ปั้นรายได้เพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 6 เดือน มีเครือข่ายโรงแรมกว่า 170 แห่ง ให้บริการแตกต่างกันตั้งแต่ที่พักราคาประหยัดจนถึงระดับพรีเมียม เผยโรงแรมในภูเก็ตทำรายได้สูงสุด รองลงมาคือ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และพัทยา
นาย แอนคิด แทนดอน (Ankit Tandon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ (CBO) ระดับโลกและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง OYO กล่าวว่า OYO เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านบริการระดับโลก แถลงผลประกอบการรายได้ หรือ Gross Booking Value (GBV) ของโรงแรมที่เป็นพันธมิตรในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา มีรายได้เฉลี่ยต่อโรงแรมสูงขึ้นเป็น ประมาณ 20,000 ดอลล่าร์ (ต.ค.22-มี.ค.23) จาก 10,000 ดอลล่าร์เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า (เม.ย.-ก.ย.22) OYO มีเครือข่ายในประเทศไทยกระจายอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่นพัทยา, ภูเก็ต, เชียงใหม่, กระบี่ และเมืองธุรกิจ เช่น กรุงเทพฯ, ระยอง, ชลบุรี มีเครือข่ายโรงแรมกว่า 170 แห่ง กระจายทั่วประเทศไทย ที่ให้บริการหลากหลายตั้งแต่ราคาประหยัดจนถึงบริการระดับพรีเมียม โดยโรงแรมในภูเก็ตทำรายได้สูงสุด รองลงมาคือ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และพัทยา
ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในภาพรวมนั้นเกิดจาก OYO ได้นำชุดเทคโนโลยีทันสมัย มาใช้ร่วมกับโรงแรมพันธมิตรเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการ เพิ่มการมองเห็นในโฆษณาหาห้องพัก โดยแอพพลิเคชั่น Co-OYO ได้เปิดโอกาสให้โรงแรมต่างๆ เสนอโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อช่วยเพิ่มอัตราการเข้าพักและสนับสนุนการเพิ่มรายได้ เว็ปไซต์และแอพลิเคชั่นของ OYO มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่จำนวนมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก ล่าสุดได้เปิดบริการ “ชำระเงินที่โรงแรม” เพื่ออำนวยความสะดวกและยืดหยุ่นให้แขกที่เข้าพักเพิ่มขึ้น และยังมีเครื่องมือ OYO 360 ที่ใช้ AI รองรับการใช้งานด้วยตัวเองอย่างง่ายเพียงปลายนิ้ว ทำให้โรงแรมใหม่ ๆ ที่ต้องการเป็นพันธมิตรกับเราได้ง่ายขึ้น คลิก 2 ครั้งเพื่อลงทะเบียนบนแพลตฟอร์มและกดครั้งเดียวโรงแรมก็พร้อมให้บริการได้ภายใน 30 นาที
OYO ได้ช่วยให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีที่สุดด้วย เครื่องมืออัตโนมัติ เช่น AI chatbots เพื่อช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โปรแกรมที่เชื่อถือได้ และมีความสะดวกในการชำระเงินคืนเมื่อต้องการ ส่วนลูกค้าเลือกใช้บริการค้นหาที่พักจาก OYO Platform ด้วยหลายเหตุผล ทั้งคุณภาพของที่พัก ราคาที่แข่งขันได้ แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่าย Platform OYO มีความเป็นส่วนตัว และมีความยืดหยุ่น ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วด้วย บริการ OYO’s 24*7 chatbot – Yo! Chat.
OYO มีโรงแรมหลายแบรนด์ในประเทศไทย เช่น Capital O ในหมวดพรีเมี่ยม และ OYO Rooms ในหมวดราคาประหยัด ให้ลูกค้าเลือกที่พักได้สอดคล้องกับความต้องการซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพราะรัฐบาลได้ประกาศหลายมาตรการเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ รวมทั้งการร่วมจ่ายสูงสุดถึง40% การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็มีแคมเปญเช่น “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 5 ที่เพิ่งสิ้นสุดเดือนเม.ย. ที่ผ่านมาและ”Amazing Thailand, Go Local”
นาย แอนคิด กล่าวต่อไปว่า “ความสำเร็จของพันธมิตรทำให้ธุรกิจของ OYO เติบโตมากในมาเลเซีย เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความร่วมมือกับกลุ่มโรงแรมต่างๆ ทั้งในเมืองธุรกิจและเมืองท่องเที่ยว สินค้าและบริการในท้องถิ่นจะยังคงเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงานของเราในประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญของ OYO มุ่งมั่นจะช่วยให้คู่ค้าโรงแรมในเครือข่ายของเราสร้างรายได้เพิ่มขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุด เราจะเป็นผู้นำตลาดบริการโรงแรมและที่พักระดับพรีเมียม ราคาย่อมเยา ปลอดภัยและสะดวกสบายแก่ลูกค้าทุกท่าน”
นางสาว อรพิณ ศรีบุญเรือง เจ้าของโรงแรม Winner Inn ในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า “แคมเปญการตลาดเชิงกลยุทธ์ช่วยเพิ่มยอดรายได้ของโรงแรมให้เติบโตขึ้นมากก็เป็นกำลังใจที่สำคัญสำหรับเรา การที่ OYO เน้นลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกำหนดมาตรการเข้มงวดเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยนั้น เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษแก่ผู้เข้าพักทุกคน”
ข้อมูลจากรายงานผลการศึกษาความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ซึ่งสมาคมโรงแรมไทยและธนาคารแห่งประเทศไทยจัดทำขึ้นในเดือนมีนาคม ชี้ว่า โรงแรมส่วนใหญ่คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 10-30% ผู้ประกอบการส่วนใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มขนาดเล็ก -กลาง ต้องการเงินอุดหนุนในลักษณะเดียวกับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” (We Travel Together)
ททท. แถลงว่าในปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาถึง 11.81 ล้านคน ส่วนใหญ่มาจากมาเลเซีย รองลงมาคือ อินเดียว ลาว กัมพูชาและสิงคโปร์ พร้อมตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาเยือนเมืองไทยได้ไม่ต่ำกว่า 25 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2.38 ล้านล้านบาท
OYO เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่มีเทคโนโลยีทันสมัยเต็มรูปแบบเพื่อช่วยเพิ่มรายได้และอำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและที่พักขนาดเล็ก มีผลิตภัณฑ์และ Solutions แบบบูรณากรกว่า 40 รายการ นำเสนอระบบการจองที่ง่าย สะดวก ราคาไม่แพง เชื่อถือได้แก่ลูกค้าทั่วโลก ขณะนี้มีพันธมิตรโรงแรม บ้าน และที่พักรูปแบบต่าง ๆ กว่า 1.7 แสน แห่ง จดทะเบียนแล้วใน 35 ประเทศ รวมทั้งอินเดีย ยุโรปและกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ณ วันที่ 30 ก.ย.2565) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.oyorooms.com/th/
ที่มา: ฮักเดอ