ล่าสุด สายการบินเอมิเรตส์ได้ประกาศเพิ่มการดำเนินงานขึ้น 31% (ASKM ทั้งหมด) ตั้งแต่เริ่มต้นปีงบประมาณ โดยเอมิเรตส์มีแผนเพิ่มจำนวนที่นั่งในตารางเที่ยวบินฤดูร้อน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม นี้เป็นต้นไป
ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สายการบินเอมิเรตส์ได้วางแผน รวมถึงดำเนินการในการให้บริการและเพิ่มจำนวนเครือข่ายจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ได้แก่ การกลับมาให้บริการเส้นทางสู่ 5 เมือง การเปิดตัวเที่ยวบินสู่ 1 จุดหมายปลายทางใหม่ (เทลอาวีฟ) และการเพิ่มเที่ยวบินรายสัปดาห์ 251 เที่ยวบินสู่เส้นทางที่มีอยู่แล้ว อีกทั้งยังมุ่งดำเนินการปรับปรุงการบริการอย่างต่อเนื่องทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน เพื่อบริการที่สะดวกสบาย และครอบคลุมสำหรับผู้โดยสารจากทั่วทุกมุมโลก
การให้บริการ A380 ในตารางเที่ยวบินฤดูร้อนปี 2023:
สายการบินเอมิเรตส์ยังคงขยายการดำเนินงาน ด้วยการนำเครื่องบิน A380 พร้อมที่นั่งสองชั้นอันเป็นสัญลักษณ์มาใช้ในเครือข่ายจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นได้แก่ กลาสโกว์ (ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม) คาซาบลังก้าจาก (15 เมษายน) ปักกิ่ง (ตั้งแต่วันที่ 01 พฤษภาคม) เซี่ยงไฮ้ (ตั้งแต่วันที่ 04 มิถุนายน) นีซ (ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน) เบอร์มิงแฮม (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม, กัวลาลัมเปอร์ (ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม) และไทเป (ตั้งแต่วันที่ 01 สิงหาคม)
เอมิเรตส์เพิ่มเติมเส้นทางการบินในแต่ละภูมิภาค ดังนี้:
ภูมิภาคเอเชียตะวันออก
- กรุงเทพฯ: เพิ่มบริการเที่ยวบินที่ 5 ของจำนวนเที่ยวบินรายวัน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม
- ปักกิ่ง: เริ่มให้บริการโบอิ้ง 777-300ER ในเที่ยวบินตรงทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม และอัปเกรดเป็นแอร์บัส A380 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม โดยเที่ยวบินรายวันเที่ยวบินที่สองจะให้บริการด้วยเครื่องบิน A380 ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน เป็นต้นไป
- ฮ่องกง: เพิ่มเที่ยวบินตรงทุกวันตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ซึ่งจะเพิ่มการดำเนินงานของสายการบินเอมิเรตส์เป็น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ร่วมกับเที่ยวบินรายวันสู่ ดูไบ-กรุงเทพฯ-ฮ่องกง ที่มีอยู่เดิม
- กัวลาลัมเปอร์: เพิ่มบริการเที่ยวบินที่ 3 ของจำนวนเที่ยวบินรายวัน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน
- โตเกียว: เริ่มให้บริการเที่ยวบินรายวันสู่โตเกียว(ฮาเนดะ) อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน เป็นผลให้จำนวนเที่ยวบินของเอมิเรตส์ สู่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 21 เที่ยวบินต่อวัน ร่วมกับเที่ยวบินรายวันด้วยแอร์บัส A380 ไปยังโตเกียว (นาริตะ) และเที่ยวบินรายวันด้วยโบอิ้ง 777 ไปยังโอซาก้า
ยุโรป
อัมสเตอร์ดัม: เพิ่มเที่ยวบินต่อสัปดาห์จาก 14 เป็น 19 เที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน
เอเธนส์: เพิ่มบริการตามฤดูกาลรายวันเพื่อรองรับความต้องการในช่วงฤดูร้อนระหว่างวันที่ 1 มิถุนายนถึง 30 กันยายน
โบโลญญา: เพิ่มบริการจาก 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็นบริการรายวัน เริ่ม 1 พฤษภาคม
บูดาเปสต์: เพิ่มบริการจาก 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็นบริการรายวัน ภายในวันที่ 1 มิถุนายน
ลอนดอน: เพิ่มบริการเที่ยวบินที่ 2 ของจำนวนเที่ยวบินรายวันสู่สนามบินลอนดอนสแตนสเต็ด ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นผลให้จำนวนเที่ยวบินของสายการบินเอมิเรตส์ สู่กรุงลอนดอนเพิ่มขึ้นเป็น 11 เที่ยวบินต่อวัน ร่วมกับเที่ยวบินรายวันสู่สนามบินลอนดอนฮีทโธรว์ และสนามบินลอนดอนแกตวิคจำนวน 3 เที่ยวบินต่อวัน
เวนิส: เพิ่มเที่ยวบินรายสัปดาห์จาก 5 เป็น 6 เที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม และปรับเป็นบริการรายวันตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน
แอฟริกา
- ไคโร: เพิ่มเที่ยวบินรายสัปดาห์จาก 25 เป็น 28 เที่ยวบิน ภายในวันที่ 29 ตุลาคม
- ดาร์เอสซาลาม: เพิ่มเที่ยวบินจาก 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็นเที่ยวบินรายวัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม
- เอนเทบเบ: เพิ่มเที่ยวบินจาก 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็นเที่ยวบินรายวัน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม
ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
สายการบินเอมิเรตส์จะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินตรงสู่ออสเตรเลียให้เท่ากับจำนวนเที่ยวบินก่อนการเกิดโรคระบาด โดยจะเริ่มให้บริการเที่ยวบินรายวันไปยังซิดนีย์ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เมลเบิร์นตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม และบริสเบนในวันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป
- บริสเบน: เพิ่มเที่ยวบินรายวันตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน เป็นผลให้จำนวนเที่ยวบินของสายการบินเอมิเรตส์ สู่บริสเบน เพิ่มขึ้นเป็น 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
- ไครสต์เชิร์ช: กลับมาให้บริการเที่ยวบินรายวันจากดูไบผ่านซิดนีย์ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม
- เมลเบิร์น: เพิ่มบริการเที่ยวบินที่ 3 ของจำนวนเที่ยวบินรายวันผ่านสิงคโปร์ สู่เมลเบิร์น ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม และเพิ่มเที่ยวบินตรงจากเมลเบิร์นสู่ดูไบ จำนวน 2 เที่ยวบิน
- ซิดนีย์: เพิ่มบริการเที่ยวบินที่ 3 ของจำนวนเที่ยวบินรายวันสู่ซิดนีย์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม
ที่มา: สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์