- จำนวนดังกล่าวยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาด
- ความเชื่อมั่นในการเดินทางฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ เป็นผลจากการเปิดพรมแดนระหว่างประเทศและความอัดอั้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
- การยื่นคำร้องขอวีซ่าในปี 2565(1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม) มีจำนวนเพิ่มขึ้นราว 600% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2564 เป็นผลจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นโดยไม่คาดคิดจากการเปิดพรมแดนระหว่างประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศกลับมาเปิดให้บริการตามปกติในหลายเส้นทาง
- บริการพิเศษเฉพาะบุคคลเป็นที่ยอมรับมากขึ้น การยื่นคำร้องแบบบริการพรีเมียม (บริการเสริม) เช่น การยื่นคำร้องขอวีซ่านอกสถานที่ (Visa at Your Doorstep – VAYD) มีจำนวนเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปี 2562
- ปลายทางที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร (ไม่ได้จัดรียงตามลำดับ)
ประเทศไทยสร้างปรากฎการณ์การยื่นคำร้องขอวีซ่าเพิ่มขึ้นห้าเท่าในปี 2565 สะท้อนถึงความมั่นใจในการเดินทางที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลของวีเอฟเอส โกลบอล ผู้นำระดับโลกด้านบริการเอาต์ซอร์สและบริการเทคโนโลยีสำหรับรัฐบาลและคณะผู้แทนทางการทูต การยื่นคำร้องขอวีซ่าทุกประเภทในปี 2565 (1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม) เติบโตราว 576% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2564 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นโดยไม่คาดคิดจากการเปิดพรมแดนระหว่างประเทศและการที่สายการบินระหว่างประเทศกลับมาให้บริการตามปกติในหลายเส้นทาง แต่จำนวนดังกล่าวยังต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาด
“ปริมาณการยื่นคำร้องขอวีซ่าที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทยบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักเดินทางที่ฟื้นกลับมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ ฤดูท่องเที่ยวต่างประเทศช่วงที่ได้รับความนิยมสูงสุดน่าจะเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม และเราเชื่อว่าแนวโน้มดังกล่าวจะเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ผู้ที่วางแผนเดินทางออกนอกประเทศไทยต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความเร่งรีบก่อนถึงกำหนดเดินทาง” นายเกาซิค กอช หัวหน้าภูมิภาคออสเตราเลเซีย วีเอฟเอส โกลบอล กล่าว
ดังนั้นบริการพิเศษเฉพาะบุคคลจึงได้รับการตอบรับอย่างดีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะเห็นได้จากการยื่นคำร้องขอวีซ่าในปี 2565 โดยวีเอฟเอส โกลบอล พบว่าบริการพิเศษ เช่น บริการยื่นคำร้องขอวีซ่านอกสถานที่ (Visa at Your Doorstep – VAYD) มีผู้ใช้บริการมากขึ้น เพราะทำให้ผู้ยื่นคำร้องสามารถดำเนินการได้อย่างสะดวกสบายทั้งจากที่บ้านหรือสถานที่ใดก็ตามโดยครบถ้วนทุกขั้นตอนการยื่นคำร้องขอวีซ่า บริการพิเศษดังกล่าวรองรับการยื่นคำร้อง ลงทะเบียนข้อมูลไบโอเมตริก และจัดส่งหนังสือเดินทางกลับคืนถึงสถานที่ที่ต้องการ การจองบริการ VAYD ในปี 2565 (1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม) เพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2562 และเติบโตจากปี 2564 ถึง 27% ทั้งนี้บริการ VAYD พร้อมให้บริการสำหรับการเดินทางไปออสเตรีย โครเอเชีย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ สาธารณรัฐเช็ก และสหราชอาณาจักร
“จำนวนนักเดินทางที่ให้ความสนใจบริการพิเศษเฉพาะบุคคลแบบไร้การสัมผัสหลังสถานการณ์โรคระบาดมีเพิ่มมากขึ้น ความกังวลเรื่องสุขภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญข้อหนึ่งในการเดินทางต่างประเทศ ผู้ยื่นคำร้องจำนวนมากจึงต้องการบริการอย่าง VAYD หรือห้องรับรองพิเศษที่มอบประสบการณ์ด้านการยื่นคำร้องขอวีซ่าที่สะดวกสบายโดยไม่ต้องยืนรอคิว ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บริการในยุคดิจิทัลที่ปรับเปลี่ยนรุดหน้าอย่างรวดเร็วทำให้เราคาดว่าบริการพรีเมียมดังกล่าวจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าที่ให้ความสำคัญต่อการเดินทางที่อย่างปลอดภัย” นายกอซ กล่าวเสริม
ทั้งนี้วีเอฟเอสโ กลบอล รับหน้าที่ให้บริการยื่นคำร้องอวีซ่าแก่รัฐบาล 23 ประเทศจากในประเทศไทย ประกอบด้วย ออสเตรเลีย ออสเตรีย แคนาดา สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก ฟินแลนด์ อินเดีย อิตาลี เยอรมนี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สิงคโปร์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร
คำแนะนำการเดินทางในฤดูการท่องเที่ยว
ยื่นคำร้องล่วงหน้า
วีเอฟเอส โกลบอล แนะนำให้ผู้ใช้บริการยื่นคำร้องขอวีซ่าตั้งแต่ช่วงเดียวกับที่จองตั๋วเครื่องบินและที่พัก ปัจจุบันหลายประเทศอนุญาตให้ยื่นคำร้องขอวีซ่าล่วงหน้าได้ถึง 90 วัน (3 เดือน) ก่อนวันที่เดินทาง ขณะที่ระเบียบวีซ่าเชงเกนฉบับปรับปรุงที่มีผลเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 อนุญาตให้ยื่นคำร้องขอวีซ่าเชงเกนก่อนวันที่เดินทางได้ถึง 6 เดือน ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ผู้ยื่นคำร้องรีบดำเนินการขอวีซ่าเป็นการล่วงหน้าโดยเร็วที่สุดโดยเฉพาะในปีนี้ที่มีความต้องการเดินทางสูงและมีช่วงเวลานัดหมายที่จำกัด
อย่าหลงกลเรื่องหลอกลวง
ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าควรระมัดระวังบุคคลที่คิดค่าธรรมเนียมลูกค้าในการนัดหมายหรือการให้บริการต่างๆ ทั้งที่แอบอ้างชื่อวีเอฟเอส โกลบอล หรือชื่ออื่นใดก็ดี เราไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมสำหรับการนัดหมายแต่อย่างใด หากต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใดก็ตาม โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ของเราหรือส่งอีเมลมาที่ [email protected]
สัมผัสกับบริการเสริมเพื่อความสะดวกสบายในการยื่นคำร้องขอวีซ่า ได้แก่
- ห้องรับรองพิเศษ: สัมผัสประสบการณ์ในการยื่นคำร้องขอวีซ่าแบบส่วนตัวที่ทั้งรวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกสบาย
- บริการกรอกแบบฟอร์ม: ให้เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญคอยช่วยเหลือคุณกรอกคำร้องขอวีซ่าทางโทรศัพท์หรือ ณ ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า
- บริการจัดส่งเอกสาร: เรามีบริการจัดส่งหนังสือเดินทางและเอกสาร ที่ทั้งรวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกสบาย
- ประกันภัยค่ารักษาพยาบาลระหว่างการเดินทาง: ขอรับความคุ้มครองจากการประกันภัยค่ารักษาพยาบาลระหว่างการเดินทางภาคบังคับซึ่งรวมถึงการครอบคลุมโควิด-19 จากผู้รับประกันภัยชั้นนำระดับโลก
- บริการแจ้งเตือนทาง SMS: แจ้งสถานะล่าสุดของการยื่นคำร้องขอวีซ่าของคุณ
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่: https://www.vfsglobal.com/en/individuals/solutions.html
เกี่ยวกับ วีเอฟเอส โกลบอล
วีเอฟเอสโกลบอล เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการเอาต์ซอร์สและบริการเทคโนโลยีสำหรับรัฐบาลและคณะผู้แทนทางการทูตทั่วโลก วีเอฟเอสโกลบอลเป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลที่เป็นลูกค้า 67 แห่ง โดยมีเครือข่ายศูนย์รับคำร้องทั่วโลกรวมแล้วมากกว่า3,400 แห่ง ใน 145 ประเทศ บริษัทดำเนินการตามคำร้องมากกว่า 253 ล้านรายการนับตั้งแต่เริ่มกิจการเมื่อปี 2544 โดยช่วยจัดการงานต่างๆ ในเชิงธุรการและส่วนที่ไม่มีการใช้ดุลยพินิจแก่รัฐบาลที่เป็นลูกค้า อาทิ คำร้องวีซ่า หนังสือเดินทาง และบริการกงสุล เพื่อให้รัฐบาลแต่ละแห่งสามารถใช้เวลาทั้งหมดไปกับหน้าที่การประเมินอันมีความสำคัญ ทั้งนี้วีเอฟเอส โกลบอลมีสำนักงานใหญ่ที่ซูริก สวิตเซอร์แลนด์ และดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
วีเอฟเอส โกลบอลเป็นบริษัทที่ถือหุ้นส่วนใหญ่โดยกองทุนซึ่งบริหารจัดการโดยแบล็คสโตน ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ทางเลือกรายใหญ่ที่สุดในโลก แบล็คสโตนมุ่งมั่นในการสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจเชิงบวกและมอบคุณค่าระยะยาวแก่นักลงทุน บริษัทที่ได้รับเงินลงทุน และชุมชนที่บริษัทต่างๆ ดำเนินกิจการ สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของแบล็คสโตนมูลค่า 915 พันล้านดอลลาร์ประกอบด้วยการลงทุนระดับโลกในด้านต่างๆ อาทิ หุ้นนอกตลาด อสังหาริมทรัพย์ หนี้สาธารณะและหุ้นในตลาด โครงสร้างพื้นฐาน ชีววิทยาศาสตร์ หุ้นเติบโต การลงทุนแบบแสวงหาโอกาส หุ้นกู้อันดับความน่าเชื่อถือต่ำ สินทรัพย์ที่จับต้องได้ และกองทุนย่อยในตลาดรอง
อีกทั้งยังมี Kuoni and Hugentobler Foundation ในสวิตเซอร์แลนด์ และ EQT องค์กรด้านการลงทุนระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สตอกโฮล์ม สวีเดน เป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในวีเอฟเอสโกลบอลด้วย
ที่มา: พรีเชียส คอมมูนิเคชั่น