- ผลสำรวจของยูโกฟใน 11 ประเทศเผยให้เห็นว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 44% ต้องการเทคโนโลยีและกฎระเบียบใหม่ที่ช่วยผ่อนคลายการเดินทาง
- ผู้ตอบแบบสำรวจ 34% ต้องการให้การท่องเที่ยวยั่งยืนมากขึ้น และ 29% อยากให้โลกและสุขภาพมาก่อนผลกำไร
- แม้สภาพเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ผู้ตอบแบบสำรวจ 42% ยังคงวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
- ผู้ตอบแบบสำรวจ 64% ไม่คิดจะเดินทางเพื่อทำธุรกิจ ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ผลสำรวจระดับโลกเผยให้เห็นว่า นักเดินทางต้องการให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับบทเรียนจากสถานการณ์โรคระบาดและเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมให้ดีกว่าเดิม
ผลสำรวจอนาคตของการท่องเที่ยว (Future of Tourism Survey) ได้สำรวจทัศนคติที่มีต่อการท่องเที่ยวและความคาดหวังของผู้บริโภคใน 11 ประเทศทั่วโลก และพบว่า
- ผู้ตอบแบบสำรวจ 44% ต้องการให้มีแนวทางปฏิบัติด้านสุขภาพที่สอดคล้องกันมากขึ้น และต้องการให้ใช้เทคโนโลยีมาช่วยให้การเดินทางราบรื่นมากขึ้น
- ผู้ตอบแบบสำรวจ 34% ต้องการเห็นความยั่งยืนมากขึ้นในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
- ผู้ตอบแบบสำรวจ 29% ต้องการเห็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับสุขภาพและความยั่งยืนมากกว่าผลกำไร
- ผู้ตอบแบบสำรวจ 33% เรียกร้องให้มีการคุ้มครองทางการเงินแก่นักเดินทางมากขึ้นหลังประสบกับสถานการณ์โรคระบาด
ผู้ตอบแบบสำรวจจากจีน อินเดีย และเกาหลีใต้ ต้องการให้มีแนวทางปฏิบัติด้านสุขภาพที่สอดคล้องกันมากขึ้นและเทคโนโลยีที่ช่วยให้การเดินทางราบรื่นขึ้นมากที่สุด
กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบียได้มอบหมายให้ยูโกฟ (YouGov) ทำการสำรวจครั้งนี้ โดยมีการสำรวจประชาชนเกือบ 14,000 คน ใน 11 ประเทศ ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น ซาอุดีอาระเบีย เม็กซิโก เกาหลีใต้ สเปน และสวีเดน
คุณอาเหม็ด อัล คาตีบ ( Ahmed Al Khateeb) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า “สถานการณ์โรคระบาดส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก และแสดงให้เราทุกคน ทั้งนักเดินทาง นักท่องเที่ยว ภาคธุรกิจ และภาครัฐ เห็นว่าเราสามารถทำสิ่งที่แตกต่างออกไปได้”
“ผลสำรวจอนาคตของการท่องเที่ยวแสดงให้เห็นว่าประชาชนต้องการให้เราได้รับบทเรียนจากสถานการณ์โรคระบาดและเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมให้ดีขึ้น ด้วยการยกให้สุขภาพ ความยั่งยืน และการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวในอนาคต”
ผลสำรวจพบว่าทัศนคติของนักเดินทางเปลี่ยนแปลงไปหลังเกิดโรคระบาดนานสองปีและมีการล็อกดาวน์จนทำให้การเดินทางถูกจำกัด โดยผู้ตอบแบบสำรวจ 55% มีแนวโน้มเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ขณะที่ 32% รู้สึกอยากเดินทางไปต่างประเทศมากกว่าก่อนเกิดโควิด
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและราคาสินค้าที่สูงขึ้นได้บั่นทอนความกระตือรือร้นในการเดินทางในช่วง 6 เดือนข้างหน้า จากการสำรวจทั่วโลกพบว่ามีผู้ตอบแบบสำรวจเพียง 42% ที่มีแนวโน้มหรือมีแนวโน้มอย่างมากที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ขณะที่ 39% ไม่มีแนวโน้มหรือไม่มีแนวโน้มอย่างมากที่จะทำเช่นนั้น
การเดินทางเพื่อทำธุรกิจได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจเพียง 18% ที่มีแนวโน้มหรือมีแนวโน้มอย่างมากที่จะเดินทางไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศ
ชาวจีน ญี่ปุ่น และอเมริกัน มีแนวโน้มเดินทางไปต่างประเทศน้อยที่สุด ตรงข้ามกับชาวอังกฤษ อินเดีย และซาอุดีอาระเบีย ที่มีแนวโน้มสูงสุดในการเดินทางไปต่างประเทศในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
ผลสำรวจอนาคตของการท่องเที่ยวได้รับการเผยแพร่ก่อนการประชุมสภาผู้บริหารองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ครั้งที่ 116 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองญิดดะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบีย
วาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้คือ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงการปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อความต้องการในอนาคตทั้งในส่วนของความยั่งยืนและความยืดหยุ่นที่เพิ่มมากขึ้น
ก่อนที่จะเกิดโรคระบาด การเดินทางและการท่องเที่ยว (รวมถึงผลกระทบทางตรง ทางอ้อม และอิทธิพล) คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของตำแหน่งงานใหม่ทั้งหมดทั่วโลก นอกจากนั้นยังคิดเป็นสัดส่วน 10.3% ของตำแหน่งงานทั้งหมด (333 ล้านตำแหน่ง) และ 10.3% ของจีดีพีทั่วโลก (9.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ)
คุณอาเหม็ด อัล คาตีบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า “ซาอุดีอาระเบียเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของการท่องเที่ยว เราเพิ่งเปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศก่อนเกิดโรคระบาด ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีความสามารถและความมุ่งมั่นที่จะคิดและลงมือทำในรูปแบบที่แปลกใหม่และแตกต่างออกไป”
“ด้วยการผสมผสานวิสัยทัศน์ ความเป็นผู้นำ และทรัพยากรที่เพียบพร้อม เราจึงสามารถสร้างสรรค์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ซึ่งมีความยืดหยุ่นและยั่งยืนมากขึ้น เราตั้งตารอที่จะแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและทำงานร่วมกับพันธมิตรจากทั่วโลกเพื่อสร้างอนาคตที่สดใสให้กับการท่องเที่ยว”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (World Economic Forum) ได้เผยแพร่ดัชนีการพัฒนาการเดินทางและการท่องเที่ยว (Travel and Tourism Development Index) ซึ่งเผยให้เห็นว่าซาอุดีอาระเบียไต่ขึ้นมา 10 ขั้น จนรั้งอันดับที่ 33 ของโลก ดัชนีดังกล่าวเปรียบเทียบ 117 ประเทศ โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์ 17 ประการที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาและความยืดหยุ่นของอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ
ซาอุดีอาระเบียกระโดดจากอันดับ 43 ในปี 2562 มาอยู่ที่อันดับ 33 ในปี 2564 ซึ่งถือว่าไต่อันดับมากที่สุดเป็นอันดับสองของการจัดทำดัชนี โดยเป็นผลมาจากพัฒนาการที่ดีขึ้นในเกือบทุกเกณฑ์การประเมิน รายงานนี้เป็นรายงานฉบับแรกที่มีการจัดทำขึ้นนับตั้งแต่ซาอุดีอาระเบียเปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเมื่อเดือนกันยายน 2562
ทั้งนี้ สภาผู้บริหารองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) จะประชุมร่วมกันที่เมืองญิดดะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 7-8 มิถุนายนนี้
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ
เกี่ยวกับกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบีย
กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบียเป็นผู้กำกับดูแลระบบนิเวศการท่องเที่ยวของประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบียและกองทุนพัฒนาการท่องเที่ยว ทางกระทรวงฯ เป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของประเทศ รวมถึงมีหน้าที่พัฒนานโยบายและกฎระเบียบของอุตสาหกรรม พัฒนาทุนมนุษย์ รวบรวมข้อมูลสถิติ และดึงดูดการลงทุน ทางกระทรวงฯ ทำงานร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีหน้าที่ส่งเสริมให้ซาอุดีอาระเบียเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก และกองทุนพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินกลยุทธ์การลงทุนของกระทรวงฯ ด้วยการจัดหาเงินทุนสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบียก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และอยู่ภายใต้การบริหารของคุณอาเหม็ด อัล คาตีบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นครั้งแรกในปี 2562 และตั้งเป้าต้อนรับนักท่องเที่ยว 100 ล้านคนภายในปี 2573 ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นจาก 3% เป็น 10% นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ ยังดำเนินโครงการดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอโซลูชันทางเทคนิคในการส่งเสริมการท่องเที่ยว การวิจัยและพัฒนาเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม และการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ
เกี่ยวกับองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ
องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) เป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติที่รับผิดชอบด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ ยั่งยืน และเป็นสากล
ในฐานะองค์กรการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก UNWTO ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในฐานะที่เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาอย่างครอบคลุมทั่วถึง และการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป็นผู้นำและผู้สนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในการพัฒนาองค์ความรู้และนโยบายการท่องเที่ยวทั่วโลก
ระเบียบวิธีการสำรวจของยูโกฟ
- สัมภาษณ์ออนไลน์โดยคณะผู้สำรวจของยูโกฟ ร่วมกับคณะผู้สำรวจของพันธมิตร
กลุ่มเป้าหมาย
- พลเมืองของประเทศตามรายชื่อด้านล่าง
- ผู้ชายและผู้หญิง อายุ 18 ปีขึ้นไป (กลุ่มตัวอย่างประชากรทั่วไป)
ขนาดตัวอย่าง
ประเทศ | ตัวอย่าง | ตัวแทนจาก |
สหรัฐอเมริกา | 1000 | ทั่วประเทศ |
สหราชอาณาจักร | 2000 | ทั่วประเทศ |
สเปน | 1000 | ทั่วประเทศ |
อินเดีย | 1000 | เขตเมือง |
จีน | 1000 | ออนไลน์ |
ซาอุดีอาระเบีย | 1000 | เขตเมือง |
เม็กซิโก | 1000 | เขตเมือง |
เยอรมนี | 2000 | ทั่วประเทศ |
ญี่ปุ่น | 1000 | ทั่วประเทศ |
เกาหลีใต้ | 1000 | ทั่วประเทศ |
สวีเดน | 1000 | ทั่วประเทศ |
รวม | 13,000 |
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1830563/YouGov_tourism_survey.jpg
พีดีเอฟ – https://mma.prnewswire.com/media/1830562/Future_tourism_survey.pdf