โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ต้อนรับเชฟเมาโร โคราเกรคโค ผู้รังสรรค์และนำพาความอร่อยของอาหารฝรั่งเศส-อิตาเลี่ยน “ริเวียร่า” สู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

เมาโร โคราเกรคโค เดินทางมาเยือนห้องอาหารโค้ทเป็นครั้งแรก เพื่อร่วมฉลองรางวัล 1 ดาวมิชลิน ประจำปี 2022 และมอบประสบการณ์ไฟน์ไดนิ่งสุดพิเศษตลอด 4 วัน

ห้องอาหาร “โค้ท บาย เมาโร โคราเกรคโค” โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2020 ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ปี 6 เดือนของการเปิดให้บริการนั้น ห้องอาหารซิกเนเจอร์สุดหรูประจำรีสอร์ตริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ ได้รังสรรค์ประสบการณ์แห่งรสชาติของอาหารฝรั่งเศส-อิตาเลี่ยน ที่ผสมผสานกลิ่นอายและรสชาติอันมีเอกลักษณ์ของสูตรอาหารต้นตำรับจากดินแดนริเวียร่า พร้อมมอบประสบการณ์ในการรับประทานอาหารตะวันตกสไตล์ “ไฟน์ไดนิ่ง” ให้กับผู้ที่หลงใหลและชื่นชอบบรรยากาศของการรับประทานอาหารอย่างมีรสนิยม จนได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ในร้านอาหารเปิดใหม่ที่น่าจับตามอง และได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินดวงแรกมาครองได้ในปีนี้

ห้องอาหารโค้ท บาย เมาโร โคราเกรคโค ให้การต้อนรับเชฟผู้ร่วมก่อตั้งสู่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 27 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2565

“ในที่สุดวันที่ผมรอคอยมาตลอดก็มาถึง ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้เดินทางมาเยือนกรุงเทพ และจะได้มีโอกาสฉลองความสำเร็จรางวัล 1 ดาวมิชลินของร้านโค้ทร่วมกับทีมงานของผมเป็นครั้งแรกในวันนี้ นับเป็นฝันที่เป็นจริงก็ว่าได้ เพราะการวางแผนเดินทางมาเมืองไทยเมื่อปีที่ผ่านมานั้นมีความท้าทายและอุปสรรคมากมาย ทำให้การได้มาอยู่ที่กรุงเทพและได้มาสัมผัสถึงความมุ่งมั่น พลังและความตั้งใจของทีมงานของผม ตลอดจนโอกาสที่จะได้พบกับแฟนๆ ผู้ที่ติดตามผลงานและความสำเร็จของผม ตลอดจนได้พูดคุยกับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติและการปรุงอาหารสไตล์ริเวียร่าในครั้งนี้ นับเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและน่าอัศจรรย์มาก” เชฟเมาโรกล่าว

ห้องอาหารโค้ท นำพาทุกท่านออกเดินทางจากย่านกรุงเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาสู่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หรือดินแดนอิตาเลี่ยน-ริเวียร่าของประเทศฝรั่งเศส ผ่านประสบการณ์และรสชาติอาหารฝีมือเชฟโคราเกรคโค และศิษย์เอกชาวอิตาเลี่ยน-ลิกูเรีย “เชฟดาวิเด การาวาเกลีย” ผู้ถ่ายทอดปรัชญาการปรุงอาหารสูตรเฉพาะของเชฟโคราเกรคโค และเป็นผู้นำทีมครัวของห้องอาหารโค้ทสู่ความสำเร็จ ตั้งแต่วันแรกของการเปิดให้บริการจวบจนปัจจุบัน เชฟการาวาเกลียยังได้ถ่ายทอดความหลงใหลของเชฟโคราเกรคโคด้านการเลือกสรรวัตถุดิบพรีเมี่ยมและการเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาลจากสวนผักและผลไม้ออร์แกนิคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รังสรรค์เป็นรายการอาหารหลากหลายเมนู รวมถึงอาหารชุด 9-คอร์ส คาท บลางฌ* (Carte Blanche Menu) อีกด้วย

*คาท บลางฌ คือ เมนูที่คุณยินยอมมอบอำนาจเต็มให้กับเชฟ เป็นผู้รังสรรค์รายการอาหารในมื้อนั้นให้กับคุณโดยที่คุณไม่สามารถล่วงรู้รายการอาหารล่วงหน้าได้

เชฟการาวาเกลียยึดมั่นในปรัชญาการปรุงอาหารของเชฟโคราเกรคโคเสมอมา นั่นคือ การนำเสนอเมนูด้วยความเรียบง่ายแต่ประณีต และการให้ความสำคัญกับการจัดเตรียมวัตถุดิบที่ดีพร้อม ซึ่งสามารถนำเสนอและเชิดชูรสชาติของวัตถุดิบหลักให้โดดเด่นได้มากที่สุดเป็นสำคัญ และที่สำคัญที่สุดคือการมอบประสบการณ์รับประทานอาหารอันน่าประทับใจ ผ่านบริการที่ยอดเยี่ยมของทีมบริกร ตลอดจนประสบการณ์เครื่องดื่มชั้นดี และการจับคู่อาหารและเครื่องดื่มแพริ่งสุดพรีเมี่ยมของซอมเมอริเยร์มากประสบการณ์ ผู้หาใครเปรียบได้ยาก ทำให้ “โค้ท” ได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินดวงแรกประจำปี ค.ศ. 2022

โค้ทนำเสนออาหารที่รังสรรค์ขึ้นด้วยแนวคิด “ริเวียร่า ทู เดอะ ริเวอร์” (Riviera to the River) ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ที่เชฟเมาโรต้องการส่งผ่านความอร่อยจากดินแดนริเวียร่าสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา “แม่น้ำแห่งสยามประเทศ” โดยเขาได้นำเสนอสีสันแห่งฤดูกาล รสชาติ และเนื้อสัมผัสที่หลากหลายของวัตถุดิบ ผสมผสานแรงบันดาลใจ และความสวยงามของทั้ง 2 ดินแดนเข้าด้วยกัน ทำให้อาหารทุกจานไม่เพียงแต่นำเสนอรสชาติต้นตำรับของดินแดนริเวียร่าจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ได้นำความอร่อยจากเครื่องปรุงรสอาหารไทย เช่น ขิง ตะไคร้ มะกรูด และส้มโอ ผสมผสานไว้ได้อย่างลงตัวอีกด้วย และระหว่างที่เชฟโคลาเกรคโคเดินทางมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ เขาและทีมงานได้มีโอกาสเดินทางไปเลือกสรรวัตถุดิบท้องถิ่น พบปะและพูดคุยกับเจ้าของสวนผลไม้และเกษตรกรชาวไทยถึงวิธีการปลูกผักและผลไม้แบบออร์แกนิค ณ สวนภูมิใจ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้คลองบางขุนเทียนในกรุงเทพ และที่สวนมะพร้าวของชุมชนเพียรหยดตาล จังหวัดสมุทรสงคราม

เชฟเมาโรกล่าวว่า “สำหรับผมแล้ว การเลือกใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนไม่เพียงแต่คือการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีการคำนึงถึงสภาพแวดล้อมโดยรวม การให้ความเคารพกับพื้นดิน แหล่งน้ำ บรรยากาศ และการเลือกสรรผลผลิตเหล่านี้มาใช้ในการปรุงอาหาร เราต้องรู้จักปรับเปลี่ยน และมีความคิดสร้างสรรค์ในการเลือกใช้วัตถุดิบ สามารถที่จะสรรหาวัตถุดิบทดแทนในการปรุงอาหารได้ตลอดเวลา”

เชฟการาวาเกลีย กล่าวว่า “จากประสบการณ์ในการทำงานกับเชฟเมาโรที่ร้านมิราซูร์ ประเทศฝรั่งเศส ผมไม่เคยลืมความทุ่มเทที่เขามีให้กับสวนผักและผลไม้ออร์แกนิคของเขาได้เลย เชฟเมาโรจะใช้วิธี “ฟังเสียงธรรมชาติ” เป็นหลักในการชี้แนะแนวทาง และช่วยเขาสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ๆ เสมอ ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้ทำงานและปรุงอาหารร่วมกับเขาอีกครั้ง”

หลังจากที่ทางห้องอาหาร “โค้ท” ได้ประกาศถึงการมาเยือนของเชฟเมาโร โคลาเกรคโค และได้เปิดให้สำรองโต๊ะเพื่อเข้าร่วมประสบการณ์ไฟน์ไดนิ่งตลอด 4 วันกับเชฟชื่อดัง ทำให้โต๊ะและที่นั่งของห้องอาหารถูกจับจองเต็มอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแขกประจำของทางร้าน ที่ตั้งตารอชิมฝีมือและพบตัวจริงของเชฟเมาโร โคราเกรคโค มานานกว่า 1 ปี

“ผมขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมากในการต้อนรับอย่างอบอุ่นและการดูแลเป็นอย่างดี นับเป็นเกียรติของผมที่ได้พบเจอแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน และขอขอบคุณที่เชื่อมั่นในปรัชญาการปรุงอาหาร ตลอดจนชื่นชอบประสบการณ์และรสชาติของอาหารจากดินแดนริเวียร่าที่พวกเรานำเสนอแก่ท่าน ทุกๆ เสียงตอบรับและการสนับสนุนของทุกท่านทำให้การทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการทำงานมีค่ามากยิ่งขึ้น และเราสัญญาว่าจะสร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าจดจำให้กับทุกท่านต่อไป”

“โค้ท บาย เมาโร โคลาเกรคโค” เปิดให้บริการทุกวันพุธถึงวันอาทิตย์ มื้อกลางวัน: 12.00 น. ถึง 14.00 น. และ มื้อเย็น: 18.00 – 22.00 น. (ปิดวันจันทร์และวันอังคาร) ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ สำรองที่นั่งได้แล้ววันนี้ทางอีเมล [email protected] โทร 02 098 3818 หรือทางเว็บไซต์ www.cotebkk.com และสามารถติดตามร้านอาหารโค้ทได้ที่เฟซบุ๊ค www.facebook.com/cote.bangkok หรืออินสตาแกรม @cote.bangkok

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ที่ www.capellahotels.com/bangkok.

ที่มา: โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ