กลุ่มดุสิตธานี เดินหน้าขยายฐาน – ปักหมุดแบรนด์ “ดุสิตธานี” แห่งแรกในญี่ปุ่น

เตรียมเปิดโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ภายในเดือน ก.ย. 2566 มั่นใจท่องเที่ยวญี่ปุ่นฟื้นอย่างแข็งแกร่ง

กลุ่มดุสิตธานี ลงนามในสัญญาบริหารโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ “ดุสิตธานี” แห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น กับบริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด บริษัทที่เน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว โดยลงนามผ่านบริษัท ดีแอนด์เจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มดุสิตธานีในกรุงโตเกียวด้วยเช่นกัน ข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์นี้ทำให้ ดุสิตธานี กลายเป็นแบรนด์โรงแรมไทยแห่งแรกในเมืองที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมอย่างเกียวโต และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของดุสิตในการขยายการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว อาทิ การสร้างงานในชุมชน การสนับสนุนเศรษฐกิจ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ

นางศุภจี สุธรรมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มดุสิตธานีรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับบริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด เพื่อนำเสนอการบริการที่สง่างามแบบไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของเราในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก การลงนามครั้งนี้เป็นการดำเนินตามกลยุทธ์การเติบโตแบบยั่งยืนและถือเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มดุสิตธานี เราเชื่อมั่นว่าตลาดการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นจะสามารถกลับมาแข็งแกร่งและเป็นที่นิยมเหมือนเช่นเดิม หลังจากต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในสถานการณ์ปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น เกียวโตยังเป็นจุดหมายปลายทางอันยอดเยี่ยม ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ มรดกทางวัฒนธรรม เราหวังว่าจะนำจุดเด่นมาใช้กับโรงแรมของเรา เพื่อให้การดำเนินงานของเราสอดคล้องและเอื้อประโยชน์ให้กับชุมชนโดยรอบและผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายในระยะยาว

ทั้งนี้ โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห่างจากสถานีเกียวโตในย่านฮอนกันจิ มอนเซน-มาชิ เพียง 850 เมตร ได้รับการออกแบบให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัยขนาด 4 ชั้น มีห้องพักประมาณ 150 ห้อง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ได้แก่ ห้องอาหารที่เป็นธีมแบบไทย ซึ่งเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน, ร้านอาหารญี่ปุ่น, ล็อบบี้เลานจ์และบาร์, ห้องจัดเลี้ยง ฟิตเนส และสถานที่ให้บริการเวลเนส ที่สำคัญรอบๆ โรงแรมยังรายล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง เช่น วัดฮิกะชิ ฮอนกันจิ, วัดนิชิ ฮอนกันจิ ซึ่งเป็นวัดที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก, เกียวโตทาวเวอร์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโตนอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถไปยัง กิออน ย่านเกอิชาที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ด้วยรถไฟเพียง 10 นาที หรือไปเที่ยวตลาดนิชิกิ ซึ่งเป็นตลาดและถนนสายช้อปปิ้งอันคึกคักและโด่งดังที่สุดในเมืองเกียวโต จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ครัวของเกียวโต ก็อยู่ห่างจากโรงแรมเพียง 15 นาทีโดยรถไฟเท่านั้น

โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา มีผู้มาเยือนเกียวโต 87.91 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.86 ล้านคนจากปี 2561 ในขณะที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศหยุดชะงักชั่วคราวจากการจำกัดการเดินทาง ซึ่งผู้บริหารของดุสิตธานี คาดการณ์ว่า เมืองเกียวโตจะกลับมาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญเช่นเคย เมื่อนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อีกครั้ง

ด้าน นายมาซาฮิโระ นากางาวะ ประธานบริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีความภูมิใจและยินดีที่ได้ร่วมมือกับกลุ่มดุสิตธานี ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมแล้ว ยังช่วยส่งต่อคุณค่าทางสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต ด้วยการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากท้องถิ่นและการผสมผสานกันระหว่างการบริการที่มีเอกลักษณ์แบบไทยและญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน จะยิ่งทำให้โรงแรมดุสิตธานี เกียวโตสามารถมอบประสบการณ์การเข้าพักที่น่าจดจำอย่างแท้จริงในใจกลางเมืองได้อย่างแน่นอน

ปัจจุบันกลุ่มดุสิตธานี ประกอบด้วย โรงแรมและรีสอร์ทจำนวน 339 แห่ง ที่ดำเนินงานภายใต้ 6 แบรนด์ใน 14 ประเทศ โดยดุสิตได้มีโอกาสบุกเข้าตลาดญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้ ผ่านอีลิธ เฮเวนส์ ซึ่งเป็นบริษัทรับบริหารวิลล่าหรูชั้นนำในเอเชีย ที่รับบริหาร สกีชาเล่ท์ ซึ่งเป็นพี่พักบนภูเขาในสกีรีสอร์ทสุดหรูที่นิเซโกะ

ข้อมูลเกี่ยวกับดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล :
ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2491 ปัจจุบันดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการบริการท่องเที่ยวและโรงแรม ดำเนินกิจการครอบคลุม 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต้อนรับ ธุรกิจหลักของกลุ่มได้แก่ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและวิลล่าหรู ภายใต้ 6 แบรนด์ ได้แก่ ดุสิตธานี, ดุสิตเดวาราณา, ดุสิตดีทู, ดุสิตปริ๊นเซส, อาศัย และอีลิธฮาเวนส์ ในจุดหมายปลายทางชั้นนำกว่า 300 แห่งใน 14 ประเทศทั่วโลก และธุรกิจการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนสอนประกอบการทำอาหาร วิทยาลัยการโรงแรมทั้งในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้บริการอื่นๆ เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่บริษัทเพิ่งเริ่มกระจายการลงทุนไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามแผนกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ที่ประกอบด้วย 3 ด้านได้แก่ การสร้างความสมดุล การเติบโต และการกระจายความเสี่ยง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dusit-international.com

ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด :
บริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2493 โดยได้รับช่วงต่อจากทรัพย์สินจากบริษัท ยาสุดะโฮเซนชา ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามกลุ่มยาสุดะ ไซบาสุ ยาสุดะยังคงพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกรุงโตเกียวเป็นธุรกิจหลัก ในขณะที่ขยายธุรกิจรับพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขึ้นใหม่ และธุรกิจที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมตามความต้องการของตลาด

นายเซ็นจิโร ยาสุดะ ผู้ก่อตั้งบริษัทยาสุดะ และทีมงาน ยึดหลักความเชื่อที่ว่า “ลูกค้าเป็นอันดับแรก” และภูมิใจในการเป็นบริษัท อสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่มีส่วนช่วยเหลือสังคมด้วยการสร้างคุณค่า

ที่มา: ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ