เฉลิมฉลองไปกับชาวไอริชเนื่องในวัน St. Patrick’s Day!

ประวัติความเป็นมา

วันนักบุญแพทริก หรือ St. Patrick’s Day เป็นการเฉลิมฉลองทางศาสนาที่จัดขึ้นในวันที่ 17 มีนาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันถึงแก่กรรมของนักบุญแพทริก ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำศาสนาคริสต์มาสู่เกาะไอร์แลนด์ในศตวรรษที่ 5 ด้วยการใช้ใบแชมร็อค (Shamrock) หรือ ใบโคลเวอร์สามแฉก เพื่ออธิบายแนวคิดเรื่องตรีเอกภาพ (พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์) ส่งผลให้ชาวไอริชเปลี่ยนจากความเชื่อดั้งเดิมมาเป็นการนับถือคริสต์ศาสนา มีการก่อตั้งโบสถ์และทำให้ไอร์แลนด์กลายเป็นศูนย์กลางการศึกษาและศาสนาในยุโรป อีกทั้งยังมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของชาวไอริช จนกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศ

วัฒนธรรมประเพณี

วันนักบุญแพทริกไม่ได้เป็นเพียงแค่วันหยุดทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมและประเพณีอันหลากหลายของชาวไอริชที่ถูกถ่ายทอดมาหลายศตวรรษ 

  • การสวมใส่เสื้อผ้าสีเขียวเป็นธรรมเนียมที่สำคัญ เพราะสีเขียวไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจในความเป็นไอริชเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับทุ่งหญ้าอันเขียวขจีของไอร์แลนด์อีกด้วย ผู้คนมักจะติดใบแชมร็อค (Shamrock) ไว้ที่เสื้อผ้าเพื่อเป็นการรำลึกถึงคำสอนของนักบุญแพทริก 
  • เมืองต่างๆ ทั่วไอร์แลนด์จัดขบวนพาเหรดอันยิ่งใหญ่ในวันนี้ โดยมีการประดับรถขบวนอย่างสวยงาม วงดนตรีเดินแถว และการแสดงต่างๆ เทศกาลนักบุญแพทริกในกรุงดับลินถือเป็นงานที่ใหญ่ที่สุด ดึงดูดผู้เข้าชมหลายแสนคนจากทั่วโลก ขบวนพาเหรดเหล่านี้จะแสดงถึงวัฒนธรรมไอริชอย่างสร้างสรรค์
  • ดนตรีพื้นเมืองไอริชและการเต้นรำแบบดั้งเดิม เช่น จิ๊ก (jigs) และรีล (reels) จะบรรเลงเต็มท้องถนนและผับต่างๆ สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและมีชีวิตชีวา นักดนตรีจะเล่นเครื่องดนตรีแบบดั้งเดิม เช่น ไฟเดิล (fiddle) บอดรัน (bodhrán) ปี่ยูเลี่ยน (uilleann pipes) และแอคคอร์เดียน (accordion) 

นอกจากนี้แล้ว ยังมีตำนานของเลพริคอน (Leprechaun) สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ในตำนานพื้นบ้านไอริช ที่เชื่อกันว่าซ่อนหม้อทองไว้ที่ปลายรุ้ง เลพริคอนมักถูกวาดภาพว่าเป็นชายแก่ตัวเล็กใส่เสื้อผ้าสีเขียว กำลังทำรองเท้า แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับนักบุญแพทริก แต่ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองและวัฒนธรรมไอริชใยสมัยใหม่

สถานที่ท่องเที่ยว

มหาวิหารนักบุญแพทริก (St. Patrick’s Cathedral) – ดับลิน

มหาวิหารนักบุญแพทริกในดับลินเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดและยาวที่สุดในไอร์แลนด์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1191 บนสถานที่ซึ่งเชื่อกันว่านักบุญแพทริกเคยใช้น้ำจากบ่อน้ำในการทำพิธีบัพติศมาให้กับผู้เข้ารับนับถือศาสนาคริสต์ ในช่วงวันนักบุญแพทริก มหาวิหารแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางศาสนาและการเฉลิมฉลองต่างๆ

สถาปัตยกรรมแบบโกธิคของมหาวิหารแห่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเลื่อมใสศรัทธาและมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานของชาวไอริช ภายในมหาวิหารยังมีหน้าต่างกระจกสีที่วิจิตรบรรจง และจัดแสดงนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวของนักบุญแพทริก

ปราสาทบลาร์นีย์ (Blarney Castle) – คอร์ก

ปราสาทบลาร์นีย์ตั้งอยู่ใกล้เมืองคอร์ก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 และมีชื่อเสียงที่สุดจาก “หินบลาร์นีย์” (Blarney Stone) หินที่มีตำนานว่าผู้ใดที่ได้จุมพิตมันจะได้รับพรให้มีวาทศิลป์และความสามารถในการพูดชักจูงที่ยอดเยี่ยม

ในช่วงเทศกาลนักบุญแพทริก ปราสาทบลาร์นีย์จะทำการตกแต่งด้วยสีเขียวและเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกัความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบยุคกลาง การเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้เป็นการผสมผสานระหว่างความเชื่อทางวัฒนธรรมโบราณกับวันนักบุญแพทริก ซึ่งทั้งสองอย่างล้วนเป็นส่วนสำคัญของอัตลักษณ์ชาวไอริช นอกจากตัวปราสาทแล้ว บริเวณโดยรอบยังมีสวนที่งดงามที่ทำให้ผู้มาเยือนได้เห็นความเขียวขจีของไอร์แลนด์ที่เป็นที่มาของฉายา “เกาะมรกต” 

หน้าผามอเฮอร์ (Cliffs of Moher) – กัลเวย์

หน้าผามอเฮอร์ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งตะวันตกของไอร์แลนด์ใกล้เมืองกัลเวย์ เป็นหน้าผาหินที่สูงชันราว 214 เมตรเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก ทอดยาวกว่า 8 กิโลเมตร ด้วยทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหน้าผานี้ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในไอร์แลนด์

ชาวไอริชเชื่อว่าหน้าผามอเฮอร์เป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่นักบุญแพทริกเคยเทศนาสั่งสอนให้ผู้คนเคารพและเลื่อมใสในการสร้างสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ