“นาโกย่า” เมืองที่อดีตและอนาคตบรรจบกันอย่างลงตัว

นาโกย่า (Nagoya) เมืองหลวงของจังหวัดไอชิ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น นาโกย่าเริ่มต้นจากการเป็นเมืองป้อมปราการของซามูไรที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทางการรบ ต่อมาพัฒนาเป็นศูนย์กลางของงานฝีมือดั้งเดิม เช่น เครื่องปั้นดินเผาและสิ่งทอ ซึ่งเป็นรากฐานของการเติบโตทางอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์และอากาศยาน 

แม้สิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์หลายแห่งในนาโกย่าจะถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่การฟื้นฟูเมืองแห่งนี้หลังสงครามได้ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม ทำให้นาโกย่ากลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและการผลิตที่สำคัญของญี่ปุ่น โดยปัจจุบันเมืองนี้เป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่นชั้นนำมากมาย อาทิ โตโยต้า ซูซูกิ และฮอนด้า มอเตอร์

สถานที่ท่องเที่ยวในนาโกย่า 

  • ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) – หนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น มีความสำคัญอย่างมากต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและศักดิ์ศรีของตระกูลโชกุนที่ปกครองญี่ปุ่นในยุคเอโดะ เป็นศูนย์กลางทางการเมืองและการทหารที่สำคัญและเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมปราสาทญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
  • สวนโทคุกาวะ (Tokugawa Garden) – สวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มีสระน้ำขนาดใหญ่ น้ำตก และพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด เหมาะสำหรับการเดินเล่นพักผ่อนและชมความงามของธรรมชาติ ภายในบริเวณเดียวกันยังมี พิพิธภัณฑ์ศิลปะโทคุกาวะ ซึ่งมีสิ่งประดิษฐ์ของซามูไรที่นำมาจัดแสดงจำนวนมาก
  • พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า (TOYOTA Commemorative Museum of Industry and Technology) – พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาและเทคโนโลยีของบริษัทโตโยต้า มีนิทรรศการเกี่ยวกับรถยนต์และเครื่องจักรต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น และบทบาทของโตโยต้าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
  • โอเอซิส 21 (Oasis 21) – สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้วยหลังคาแก้วรูปทรงวงรีขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “Space Ship-Aqua” ซึ่งเป็นสวนน้ำลอยฟ้า มีร้านค้า ร้านอาหาร และพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆเป็นจุดชมวิวที่สวยงามของเมืองนาโกย่า

และสำหรับใครที่มาเยือนนาโกย่าแล้ว ห้ามพลาดที่จะลิ้มลอง “Hitsumabushi” หรือ “ฮิทสึมาบูชิ” ข้าวหน้าปลาไหลย่าง อาหารขึ้นชื่อจากเมืองนาโกย่า ที่โดดเด่นด้วยวิธีการกินถึง 3 แบบ มอบความอร่อย 3 รสชาติในชามเดียว 

ขั้นตอนการทานฮิตสึมะบุชิ 

แบ่งข้าวและปลาไหลในถ้วยเป็น 4 ส่วน สำหรับการรับประทานทั้ง 3 แบบ และอีก 1 ส่วนสำหรับการเลือกรับประทานแบบที่ตนเองชอบที่สุดเป็นการปิดท้าย

  • วิธีที่ 1: รับประทานปลาไหลย่างชุ่มซอสหวานๆคู่กับข้าวสวยร้อนๆโดยไม่ใส่อะไรเพิ่มเติม เพื่อลิ้มรสชาติความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม
  • วิธีที่ 2: เติมยาคุมิ (Yakumi) ซึ่งเป็นผักผลไม้และอาหารทะเลตากแห้งที่ช่วยยกระดับรสชาติ ที่แต่ละร้านจะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากมักจะเป็นวาซาบิและต้นหอมซอย เพิ่มรสชาติความเผ็ดซ่ามาตัดความหวานของน้ำซอสปลาไหลย่างได้เป็นอย่างดี
  • วิธีที่ 3: เติมน้ำชาหรือซุปดาชิ (Dashi) ลงไปในข้าวที่แบ่งออกมาแล้ว รับประทานเหมือน โอฉะสึเกะ (Ochazuke) ข้าวราดชาฉบับญี่ปุ่น ที่จะเจือจางความเข้มข้นของรสชาติน้ำซอสหรือความเผ็ดของยาคุมิ เพิ่มกลิ่นหอม รับประทานคล่องคอ

โดยล่าสุด สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ทำการต้อนรับเส้นทางบินกลับมาอีกครั้ง บินจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองไปท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์, นาโกย่า (เเวะไทเป) โดยจะเริ่มทำการบินในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568 ซึ่งราคาบัตรโดยสารเริ่มต้นที่ 3,995 บาทต่อเที่ยวบิน

สำรองบัตรโดยสารเเละซื้อบริการพิเศษเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.lionairthai.com หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ Contact Center Line Official Account: @lionairgroup และโทร 02-529-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ