เมื่อเดือนกันยายนใกล้จะสิ้นสุดลง และเดือนตุลาคมกำลังจะย่างกรายเข้ามา นั่นหมายถึงการเริ่มต้นของฤดูกาลตามล่า “แสงเหนือ” หรือ “Aurora Borealis” แสงสีเขียวมรกตที่เต้นระบำอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างก็อยากไปเห็นกับตาสักครั้งหนึ่งในชีวิต
แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์กับชั้นบรรยากาศของโลก เกิดเป็นแสงสีสันสวยงามลอยระบำอยู่บนท้องฟ้า มักพบเห็นได้ในบริเวณใกล้ขั้วโลกเหนือ โดยจะมีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดในช่วงสิ้นเดือนกันยายนไปจนถึงเมษายน
หากคุณกำลังวางแผนออกตามล่าหาแสงเหนือ นี่คือ 5 จุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด
- Tromsø, Norway
ทรอมโซเป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล และได้รับการขนานนามว่าเป็น “ประตูสู่อาร์กติก” เป็นเมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือ นอกจากนี้ ยังสามารถสนุกกับกิจกรรมฤดูหนาวท่ามกลางภูเขาหิมะขาวปุย เช่น การขี่สุนัขลากเลื่อน หรือการนั่งกระเช้าขึ้นไปชมวิวเมือง
- Reykjavik, Iceland
เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ อีกหนึ่งจุดหมายยอดนิยมสำหรับการชมแสงเหนือ แม้จะอยู่ใต้เส้นอาร์กติกเซอร์เคิลเล็กน้อย แต่ก็ยังมีโอกาสเห็นแสงเหนือได้บ่อยครั้ง นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการแช่น้ำพุร้อนธรรมชาติ และชมธารน้ำแข็งอันสวยงามได้อีกด้วย
- Lapland, Finland
แลปแลนด์เป็นดินแดนทางตอนเหนือของฟินแลนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการชมแสงเหนือ โดยเฉพาะในเมืองโรวาเนียมิ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะบ้านของซานตาคลอส นอกจากการชมแสงเหนือแล้ว คุณยังสามารถเยี่ยมชมฟาร์มกวางเรนเดียร์ และพักในโรงแรมน้ำแข็งได้อีกด้วย
- Fairbanks, Alaska, USA
แฟร์แบงก์สเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในใจกลางของรัฐอลาสก้า และเป็นจุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา ด้วยท้องฟ้าที่มืดสนิทและอากาศที่แห้ง ทำให้มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้สูงมาก นอกจากนี้ยังสามารถเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติเดนาลี และเพลิดเพลินกับการเยี่ยมชมชีวิตสัตว์ป่าในอลาสก้า
- Yellowknife, Canada
เยลโลว์ไนฟ์ เมืองหลวงของเขตนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ อีกหนึ่งจุดหมายยอดนิยมสำหรับการชมแสงเหนือ ด้วยท้องฟ้าที่เปิดโล่งและมีเมฆน้อย ทำให้มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้มากถึง 240 คืนต่อปี นอกจากนี้ คุณยังสามารถสนุกกับกิจกรรมฤดูหนาวอื่นๆ เช่น การตกปลาบนน้ำแข็ง หรือการขี่สโนว์โมบิลได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสภาพอากาศที่หนาวเย็น และเตรียมใจในการอดทนรอคอย แต่ถ้าคุณได้เห็นแสงเหนือด้วยตาตัวเองเมื่อไหร่แล้วละก็ รับรองว่าคุ้มค่ากับการรอคอยอย่างแน่นอน