การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่งเสริมกระแสการท่องเที่ยวสายมูในประเทศไทย เน้นโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับศรัทธาและวัฒนธรรม 60 แห่ง สนับสนุนการจัดทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ “Connecting to Spiritual Thailand” เพื่อมุ่งสร้างความรู้สึกและประสบการณ์ให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจเรื่องราวทางจิตวิญญาณและศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย หวังสร้างมูลค่าเศรษฐกิจสายมูเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในอีก 10 ปีข้างหน้า
การท่องเที่ยวเชิงศรัทธากำลังเป็นที่สนใจในตลาดโลก ตามรายงานข้อมูลจาก Future Market Insight ในปี 2566 ได้รายงานว่า การท่องเที่ยวมีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และคาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวเชิงศรัทธาจะสร้างมูลค่าเศรษฐกิจทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า ททท. ได้ตระหนักถึงความสำคัญของกระแสการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณและการเติบโตของ “เศรษฐกิจสายมู” ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างมาก จึงมุ่งสนับสนุนเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ผ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-book ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Connecting to Spiritual Thailand” เพื่อสร้าง Soft power ของประเทศไทยในระดับสากล ตลอดจนเปิดตลาดกลุ่มใหม่เพื่อดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากหลากหลายประเทศ
ทั้งนี้ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ “Connecting to Spiritual Thailand” จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจและอธิบายถึงความเชื่อ ของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณต่างๆ แก่ชาวต่างชาติ ให้เข้าใจถึงประวัติความเป็นมาของความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธา รวมถึงประวัติศาสตร์ของสถานที่นั้น ขยายความหมายและเหตุผลว่าทำไมนักท่องเที่ยวชาวไทย ถึงให้ความศรัทธาและเดินทางไปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ หรือสถานที่นั้นๆ ในแง่วัฒนธรรมที่หลอมรวมกลายเป็นวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค ของประเทศไทยที่น่าสนใจในความแตกต่างและความหลากหลาย สะท้อนถึงพหุวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันระหว่าง ความเชื่อกับศาสนานำมาเชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางในเส้นทางแห่งความศรัทธาให้ นักท่องเที่ยว
โดยรวบรวมข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวสายมูเตลูตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันรวม 60 แห่ง โดยเน้นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทั้งในเมืองหลัก และจังหวัดเมืองรอง เพื่อส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนจากการท่องเที่ยวในเขตเมืองรองเพิ่มขึ้น โดยเน้นการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจและมีคุณค่า พร้อมทั้งภาพถ่ายที่งดงามเพื่อให้ผู้อ่านได้สัมผัสประสบการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเนื้อหาประกอบด้วยการแนะนำสถานที่ด้วยภาพถ่ายประกอบแผนที่การเดินทาง และสร้างเนื้อหาบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อสร้างความเข้าใจในแต่ละสถานที่ และทำให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนในการไปเยี่ยมชมได้ง่าย ได้รับข้อมูลที่สร้างความเข้าใจที่มากขึ้นในแง่ประวัติศาสตร์และความเป็นมาว่าทำไมสถานที่นี้จึงถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ประกอบกับรายละเอียดวิธีการเคารพบูชา การอธิษฐานขอพร หรือการภาวนาที่ถูกต้อง ณ สถานที่แต่ละแห่งนั้น
ทั้งนี้ สถานที่ท่องเที่ยวสายมูที่แนะนำภายใน E-book เล่มนี้ ได้แก่ ศาลหลักเมือง ศาลพระพรหมเอราวัณ วัดศรีมหามาเรียมมัน (วัดแขก) ศาลแม่นาคพระโขนง ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี วัดสมานรัตนาราม วัดโพรงอากาศ (พระอาจารย์สมชาย) อุทยานพระพิฆเนศ องค์ยืน ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ปราสาทสัจธรรม พัทยา จังหวัดชลบุรี วัดเจดีย์หอย จังหวัดปทุมธานี วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม วัดทับศิลา จังหวัดกาญจนบุรี วัดป่าพุทธาราม จังหวัดราชบุรี ศาลพุ่มพวง จังหวัดสุพรรณบุรี สวนสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ พระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ และวัดพระธาตุดอยคำ จังหวัดเชียงใหม่ วัดบ้านปาง (วัดครูบาศรีวิชัย) จังหวัดลำพูน ศาลหลักเมือง จังหวัดเชียงราย อุทยานไทรงาม พิมาย จังหวัดนครราชสีมา ศาลปู่พญานาค อนันตนาคราช จังหวัดมุกดาหาร พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม สะดือแม่น้ำโขง วัดภูทอก และถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ คำโชนด จังหวัดอุดรธานี วัดถ้ำเอราวัณ จังหวัดหนองบัวลำภู ถ้ำพระยานคร เขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หอพระอิศวร วัดเจดีย์ไอ้ไข่ หลวงปู่ทวด เกาะนุ้ยนอก จังหวัดนครศรีธรรมราช และวัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่
นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว สามารถดาวน์โหลด และอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ “Connecting to Spiritual Thailand” ได้ฟรีโดยสามารถสแกน QR CODE หรือเข้าชมที่ https://www.agoda.com/travel-guides/thailand/spiritual-thailand-e-book-guide-to-thailand-temples หรือ https://www.palotaidesign.com/publishing ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ที่มา: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย