- การสร้างสรรค์สุสานลีเฮียนของเมืองโบราณเฮกราในรูปแบบดิจิทัลนี้ ช่วยให้นักเดินทางออนไลน์จากทั่วทุกมุมโลกสำรวจอนุสรณ์สถานที่มีชื่อเสียงที่สุดของอัลอูลาได้อย่างเต็มที่
- สัมผัสประสบการณ์นั่งบอลลูนลอยฟ้ามหาสนุกที่สามารถโต้ตอบได้ ที่จะเข้ามาช่วยให้ผู้เข้าชมทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าเหนือเมืองโบราณเฮกรา เปิดมุมมองสุดตระการตาและสมจริงที่สุดของสถานที่สำคัญอันเป็นแลนด์มาร์คที่มีเอกลักษณ์ ผ่านแพลตฟอร์มโลกเสมือนจริงดีเซนทราแลนด์
ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) ขอบุกโลกเมตาเวิร์ส โดยได้เชื้อเชิญผู้เข้าชมมาร่วมสำรวจและดื่มด่ำกับบรรยากาศของแบบจำลอง 3 มิติอันสมบูรณ์แบบขนาดใหญ่ของสุสานลีเฮียน บุตรแห่งคูซา (Tomb of Lyhian Son of Kuza) ที่เมืองโบราณเฮกรา (Hegra) ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก (UNESCO) แห่งแรกที่เข้าถึงได้จากทั่วทุกมุมโลกในดินแดนดิจิทัลแห่งนี้
ในตอนนี้ ราชกรรมาธิการอัลอูลาได้ก้าวหน้าไปอีกขั้น โดยใช้ความสามารถในการปรับตัวและศักยภาพที่น่าทึ่งของเมตาเวิร์ส เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในมิติเสมือนจริงแห่งใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้ ด้วยการเปิดตัวประสบการณ์บอลลูนลอยฟ้าที่สามารถโต้ตอบได้ ประสบการณ์ความน่าตื่นเต้นครั้งใหม่ของการเดินทางในโลกเมตาเวิร์สของราชกรรมาธิการอัลอูลาครั้งนี้ เปิดตัวขึ้นพร้อมกับเทศกาลบอลลูนลอยฟ้าอัลอูลา (AlUla Hot Air Balloon Festival) ประจำปี โดยได้รับความร่วมมือจากสมาพันธ์บอลลูนลมร้อนแห่งซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabian Hot Air Ballooning Federation)
การเปิดตัวในครั้งนี้ ผู้เข้าชมออนไลน์จะได้สัมผัสกับมุมมองทั้ง 360 องศาที่สมจริงหาใดเปรียบของสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองโบราณเฮกรา ตลอดจนประสบการณ์อันแสนเร้าใจของการทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือทะเลทรายดิจิทัลด้วยบอลลูนลอยฟ้าที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งออกแบบมาเพื่อยกระดับความสามารถในการเล่นและความตื่นเต้น นอกจากนี้ ราชกรรมาธิการอัลอูลายังมอบโอกาสให้คนบนบอลลูนบางส่วนมีโอกาสได้รับอุปกรณ์สวมใส่เอ็นเอฟที (NFT) ซึ่งจะช่วยขยายขีดจำกัดด้านประสบการณ์บนเมตาเวิร์สในอนาคตอีกด้วย
เมื่อรวมความสนุกของวิดีโอการผจญภัยที่ไร้ขอบเขตเข้ากับภาพที่น่าตื่นเต้นของการนั่งบอลลูนเหมือนจริงเหนือเมืองโบราณเฮกราแล้ว ประสบการณ์นี้เป็นส่วนเสริมที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเข้าสู่เมตาเวิร์สที่กว้างขวางและสร้างสรรค์ของราชกรรมาธิการอัลอูลา ช่วยให้เชื่อมต่อกับความหลากหลายของผู้เข้าชมออนไลน์ได้ทุกเพศทุกวัย
ประสบการณ์บอลลูนลอยฟ้าในครั้งนี้สร้างขึ้นบนดีเซ็นทราแลนด์ (Decentraland) ดินแดนดิจิทัลอันกว้างใหญ่ไพศาลที่กำลังขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยความร่วมมือกับฟร็อก (frog) ที่ปรึกษาด้านความคิดสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ทั้งนี้ เมืองโบราณเฮกราเสมือนได้ขยายการเข้าถึงเป็นวงกว้างมากขึ้นไปยังบรรดานักท่องเที่ยวในโลกดิจิทัล ซึ่งสามารถเข้ามาสำรวจคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์นี้ได้จากทุกที่ในโลก
ฟร็อก ซึ่งเป็นบริษัทในเครือแคปเจมิไน กรุ๊ป (Capgemini Group) มีหน้าที่พัฒนา ส่งมอบ และอำนวยความสะดวกในการเปิดตัวเมืองโบราณเฮกราเข้าสู่โลกเมตาเวิร์ส ขณะเดียวกันก็สนับสนุนกลยุทธ์อันชาญฉลาดของราชกรรมาธิการอัลอูลาอย่างเต็มที่ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและเปิดรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีล่าสุดผ่านการฟื้นฟูภูมิภาคอัลอูลาอย่างครอบคลุม
การเดินทางเยือนเมืองโบราณเฮกราในโลกเมตาเวิร์สนั้นเป็นประสบการณ์ที่ตราตรึงใจ สร้างแรงบันดาลใจ และน่าหลงใหล ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินสำรวจสุสานที่สมภูมิฐานและมีชื่อเสียงมากที่สุดของอัลอูลาแห่งนี้ได้แบบ 360 องศา ท่ามกลางการจำลองภูมิทัศน์ทะเลทรายอันสมจริง
นักท่องเที่ยวในดีเซ็นทราแลนด์สามารถดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์เมืองโบราณได้ โดยก้าวผ่านประตูอันแสนโอ่อ่าของสุสาน ให้ประสบการณ์การเข้าถึงได้มากกว่าในชีวิตจริง
ทั้งนี้ เมืองโบราณเฮกราในโลกเมตาเวิร์สนับเป็นก้าวสำคัญของการเดินทางสู่นวัตกรรมของราชกรรมาธิการอัลอูลา ซึ่งเป็นการมุ่งหน้าสู่อนาคตของการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่ทำให้อัลอูลาพร้อมที่จะต้อนรับผู้มาเยือนในอนาคตโลกดิจิทัลที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
ในขณะที่บทบาทของราชกรรมาธิการอัลอูลาในโลกเมตาเวิร์สเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เมืองโบราณเฮกราจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพในปฏิทินกิจกรรมต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อแนะนำให้รู้จักกับความมหัศจรรย์ของอัลอูลาในโลกดิจิทัล ช่วยให้ผู้คนจำนวนมากเข้าถึงวัฒนธรรม มรดก และประเพณีของอาหรับตะวันตกเฉียงเหนือได้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
พอร์ทัลข้อมูลต่าง ๆ จะนำพาผู้เยี่ยมชมไปพบกับแง่มุมต่าง ๆ ของมรดกอัลอูลา ขยายขอบเขตการรับรู้ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่มีร่วมกันกว่า 200,000 ปี ขณะเดียวกันก็ปรับเปลี่ยนแนวทางในการแบ่งปันความรู้และประเพณีอันยาวนานให้เหมาะสมกับศตวรรษที่ 21 และยุคสมัยต่อ ๆ ไป โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิสัยทัศน์ในปี 2573 (Vision 2030) ของซาอุดีอาระเบีย ในการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม
คุณอาห์เหม็ด เอช ดาอูด (Ahmed H Daoud) รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมของราชกรรมาธิการอัลอูลา กล่าวว่า “การเปิดตัวในโลกเมตาเวิร์สของราชกรรมาธิการอัลอูลานับเป็นก้าวแรกบนเส้นทางแห่งการค้นพบ ซึ่งในท้ายที่สุดจะเปิดเผยโลกใหม่ที่น่าตื่นเต้น เพื่อช่วยขยายและส่งเสริมการเชื่อมต่ออัลอูลากับผู้ชมทั่วโลกที่ใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่”
“บทบาทของเมืองโบราณเฮกราในโลกเมตาเวิร์ส ช่วยยกระดับความรู้สึกตื่นเต้นของผู้เข้าชมเป็นอย่างมากเมื่อได้มาเยี่ยมสถานที่ที่แบบจับต้องได้ของอัลอูลาผ่านประสบการณ์แบบอินเตอร์แอคทีฟ ซึ่งช่วยขยายพรมแดนของสิ่งที่จินตนาการได้ผ่านการพบเจอในโลกดิจิทัล นอกจากนี้ การเพิ่มประสบการณ์บอลลูนลมลอยฟ้าเข้าไปยังช่วยให้นักท่องเที่ยวในเมตาเวิร์สสัมผัสกับเมืองโบราณเฮกราในมิติใหม่ได้ ทำให้นักสำรวจดิจิทัลสามารถเข้าถึงสถานที่สำคัญที่มีค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในรูปแบบที่มากกว่าความเป็นไปได้ในชีวิตจริง”
ทั้งนี้ ประสบการณ์บอลลูนอากาศลอยฟ้ามีขึ้นหลังจากที่ได้จัดกิจกรรมซาอุดี ทัวร์ (Saudi Tour) ในเมตาเวิร์สเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมทางดิจิทัลรับชมการถ่ายทอดสดเมืองโบราณเฮกราได้แบบสด ๆ
ยูเนสโกกำหนดให้เมืองโบราณเฮกราเป็นมรดกโลกแห่งแรกของซาอุฯ ในปี 2551 สถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากเมืองอัลอูลาไปทางทิศเหนือ 20 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 52 เฮกตาร์ และมีหลุมฝังศพ 110 หลุมท่ามกลางกลุ่มหินรูปร่างสวยงาม โดยมีสุสานลีเฮียน บุตรแห่งคูซา เป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดด้วยความสูง 22 เมตร ซึ่งเรียกกันว่า “ปราสาทเดียวดาย” (lonely castle) เนื่องจากอยู่ห่างจากอนุสรณ์สถานอื่น ๆ สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่อนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดของอารยธรรมนาบาเทียน (Nabataean) โบราณทางตอนใต้ของมหานครเปตรา (Petra) ในจอร์แดน
ผู้เยี่ยมชมในเมตาเวิร์สสามารถสำรวจเมืองโบราณเฮกราได้ที่ https://play.decentraland.org/?position=-121%2C-149&realm=marvel&island=Ickzn
สำหรับสื่อมวลชน โปรดติดต่อ [email protected]
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ
ชื่อเมืองอัลอูลาในภาษาอังกฤษสะกดว่า AlUla เสมอ ไม่ใช่ Al-Ula
เกี่ยวกับราชกรรมาธิการอัลอูลา
ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) ก่อตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาในเดือนกรกฎาคมปี 2560 เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาเมืองอัลอูลาในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ แผนการระยะยาวของราชกรรมาธิการอัลอูลาคือการพัฒนาเศรษฐกิจและเมืองด้วยความระมัดระวัง รับผิดชอบ และยั่งยืน พร้อมกับอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติในพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมให้เมืองอัลอูลาเป็นจุดหมายปลายทางการอยู่อาศัย ทำงาน และท่องเที่ยว เป้าหมายเหล่านี้ก่อให้เกิดโครงการมากมายทั้งในด้านโบราณคดี การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา และศิลปะ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองต่อความหลากหลายทางเศรษฐกิจ การสร้างพลังให้กับชุมชน และการอนุรักษ์มรดกตกทอดตามวิสัยทัศน์ปี 2573 หรือ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย
ติดต่อสื่อ: แดเนียล แอนดรูวส์ (Daniel Andrews) [email protected], +971556217063
วิดีโอ – https://mma.prnewswire.com/media/2005924/Hegra_Metaverse.mp4
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2005918/Hegra_Metaverse.jpg
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2005919/Hegra_Metaverse_Ballon.jpg