สายการบินเอมิเรตส์และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ร่วมลงนามในข้อตกลงทางการค้าครั้งประวัติศาสตร์ในวันนี้ ซึ่งจะช่วยยกระดับการให้บริการเครือข่ายของสายการบิน และช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงจุดหมายปลายทางใหม่กว่าหลายร้อยแห่ง* ภายในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกได้ง่ายยิ่งขึ้น
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ลูกค้าของเอมิเรตส์ที่จะเดินทางไปยัง ชิคาโก ซานฟรานซิสโก และฮูสตัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดสามแห่งในสหรัฐอเมริกา จะสามารถเชื่อมต่อกับเที่ยวบินของยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เพื่อเดินทางสู่เครือข่ายจุดหมายปลายทางกว่า 200 แห่ง ครอบคลุมทั่วทวีปอเมริกาได้อย่างง่ายดายด้วยบัตรโดยสารเพียงใบเดียว
ทั้งนี้ เอมิเรตส์และยูไนเต็ดแอร์ไลน์จะมีการจัดการการให้บริการต่อเครื่องร่วมกัน ณ สนามบินอีก 8 แห่งในสหรัฐฯ ที่ให้บริการโดยเอมิเรตส์ ได้แก่ สนามบินบอสตัน ดัลลาส แอลเอ ไมอามี นิวยอร์ก (JFK) ออร์แลนโด ซีแอตเทิล และวอชิงตัน ดี.ซี.
ยูไนเต็ดแอร์ไลน์จะเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงใหม่ระหว่างนิวยอร์ก/นวร์ก และดูไบ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นไป โดยลูกค้าจะสามารถเดินทางกับสายการบินเอมิเรตส์หรือสายการบินในเครือ flydubai ไปยังเมืองต่าง ๆ มากกว่า 100 แห่ง ทั้งนี้ บัตรโดยสารสำหรับเที่ยวบินใหม่สู่ดูไบของ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ได้เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว
สายการบินเอมิเรตส์และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ประกาศลงนามข้อตกลงร่วมกันในงานพิธี ณ สนามบินนานาชาติดัลเลส โดยมี มร. สก็อตต์ เคอร์บี ซีอีโอของยูไนเต็ดแอร์ไลน์ และเซอร์ ทิม คลาร์ก ประธานสายการบินเอมิเรตส์ รวมถึงเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ของยูไนเต็ดแอร์ไลน์และเอมิเรตส์ พร้อมลูกเรือของทั้งสองสายการบิน ร่วมเป็นสักขีพยานในงานดังกล่าว
เซอร์ ทิม คลาร์ก ประธานสายการบินเอมิเรตส์ กล่าวว่า “สายการบินที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักดีที่สุดในโลก 2 แห่งร่วมมือกันเพื่อนำพาผู้คนไปยังที่ต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่การเดินทางระหว่างประเทศฟื้นตัว และผู้คนต้องการกลับไปท่องเที่ยวโลกอันกว้างใหญ่ ดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะปลดล็อกผลประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างมหาศาลและทำให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสหรัฐอเมริกาใกล้ชิดกันมากขึ้น เรายินดีต้อนรับการกลับมาของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ที่ดูไบในปีหน้า โดยที่ศูนย์กลางของเราที่ดูไบจะกลายเป็นประตูของยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เพื่อเข้าถึงเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง ผ่านเครือข่ายที่ครอบคลุมของทั้งเอมิเรตส์และ flydubai โดยเรามีความตั้งใจที่จะพัฒนาความร่วมมือกับยูไนเต็ดแอร์ไลน์ในระยะยาวต่อไป”
มร. สก็อตต์ เคอร์บี ซีอีโอของยูไนเต็ดแอร์ไลน์ กล่าวว่า “ข้อตกลงนี้เป็นการรวมสองสายการบินที่โดดเด่นและมีชื่อเสียง รวมถึงมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าและการเดินทางทางอากาศ โดยเที่ยวบินใหม่ของยูไนเต็ดแอร์ไลน์สู่ดูไบและจุดหมายปลายทางในเครือข่ายของเรา จะทำให้การเดินทางทั่วโลกง่ายขึ้นสำหรับลูกค้านับล้านของเรา รวมถึงจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่นและกระชับความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมอีกด้วย ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เราทั้งสองสายการบินรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก และเราหวังว่าจะได้เดินทางไปพร้อมกันกับทุกคน”
ลูกค้าของทั้งสองสายการบินสามารถจองเที่ยวบินต่อเครื่องด้วยบัตรโดยสารเพียงใบเดียวได้ในไม่ช้า ซึ่งจะทำให้การเช็คอินและการขนสัมภาระเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ผู้เดินทางจะสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ United.com หรือใช้แอพ United เพื่อจองเที่ยวบินจากนิวยอร์ก/นวร์ก ไปยัง การาจี ประเทศปากีสถาน หรือไปที่เว็บไซต์ Emirates.com เพื่อจองเที่ยวบินจากดูไบ ไปสู่ แอตแลนต้าหรือโฮโนลูลู ได้อย่างง่ายดาย
ข้อตกลงนี้จะทำให้สมาชิกโปรแกรมลอยัลตี้ของทั้งสองสายการบินมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์และข้อเสนอสุดพิเศษได้มากขึ้น โดยสมาชิก Emirates Skywards สามารถรับไมล์สะสมเมื่อเดินทางในเที่ยวบินที่ดำเนินการโดยยูไนเต็ดแอร์ไลน์ นอกจากนี้สมาชิก United Mileage Plus ที่บินในเที่ยวบินใหม่จาก นิวยอร์ก/นวร์ก ไปยัง ดูไบ จะสามารถรับและแลกไมล์สะสมเมื่อต่อเครื่องกับเอมิเรตส์และ flydubai ได้อีกด้วย
ลูกค้าที่เดินทางด้วยเที่ยวบินร่วมจะสามารถเพลิดเพลินไปกับการเข้าใช้ห้องรับรองของเอมิเรตส์และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ได้ในเร็ว ๆ นี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์การใช้ห้องรับรองร่วมกันจะแจ้งให้ทราบเร็ว ๆ นี้
ล่าสุด ทั้งสองสายการบินได้ประกาศการลงทุนครั้งสำคัญในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า โดยเอมิเรตส์เตรียมปรับโฉมเครื่องบินมากกว่า 120 ลำ ด้วยการลงทุนมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงตัวเลือกอาหารที่เพิ่มขึ้น เมนูมังสวิรัติใหม่ล่าสุด ประสบการณ์ ‘โรงภาพยนตร์บนท้องฟ้า’ การอัพเกรดภายในห้องโดยสาร และทางเลือกที่ยั่งยืน ในขณะเดียวกัน ยูไนเต็ดแอร์ไลน์จะเพิ่มเครื่องบินโบอิ้งและแอร์บัสใหม่ 500 ลำให้กับฝูงบิน โดยเน้นที่การตกแต่งภายในอันเป็นเอกลักษณ์ใหม่ ซึ่งรวมถึงหน้าจอด้านหลังเบาะนั่งในทุกที่นั่ง ที่เก็บของเหนือศีรษะที่ใหญ่ขึ้น การเชื่อมต่อ Bluetooth และการให้บริการอินเทอร์เน็ต WiFi บนเครื่องบินที่เร็วที่สุด เป็นต้น
*เที่ยวบินร่วมและเที่ยวบินใหม่ของ สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ไปยังดูไบต้องได้รับการอนุมัติตามกฎข้อบังคับ
ที่มา: สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์