วันนี้ (วันที่ 26 กรกฎาคม 2565) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าวและงานเลี้ยงรับรองการเปิดเส้นทางบินใหม่ “The Magical Journey” สู่เจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย โดยมี นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทยฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทยฯ ผู้บริหาร สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน ณ สำนักงานใหญ่ การบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต
นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า การบินไทยเปิดเส้นทางบินใหม่สู่เจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย เป็นการกลับมาทำการบินเที่ยวบินเชิงพาณิชย์สู่ซาอุดีอาระเบียในรอบ 32 ปี การเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-เจดดาห์ ในครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย ภายหลังจากที่รัฐบาลไทยได้เดินทางไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ รวมทั้งเป็นการสนับสนุนให้พี่น้องมุสลิมได้เดินทางแสวงบุญตามกิจสำคัญของศาสนา ซึ่งที่ผ่านมาการบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ได้สนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการจัดเที่ยวบินพิเศษขนส่งผู้แสวงบุญฮัจย์ ไปยังนครเมกกะ และเมดินะห์ ซาอุดีอาระเบีย มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน
นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า เส้นทางบินกรุงเทพฯ-เจดดาห์ เป็นเส้นทางบินที่มีศักยภาพ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของทุกๆ ตลาดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นด้านศาสนา ธุรกิจแรงงาน และการท่องเที่ยว อีกทั้ง ยังเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางของผู้โดยสารจากประเทศ ในกลุ่มภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเดินทางไปยังประเทศในตะวันออกกลางได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย โดยเริ่มทำการบินเที่ยวบินแรกในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ให้บริการในชั้นธุรกิจ และชั้นประหยัด และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ด้วยตารางบินที่สะดวกสบาย ทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ พร้อมนำผู้โดยสารเดินทางสัมผัสความมหัศจรรย์แห่งเสน่ห์มนตรา “The Magical Journey” อย่างประทับใจตลอดการเดินทาง
นอกจากนี้ ในโอกาสเปิดเส้นทางบินดังกล่าว บริษัทฯ ได้มอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้กับผู้โดยสาร อาทิ ผู้โดยสารชั้นประหยัดได้รับน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระเพิ่มเป็น 35 กิโลกรัมต่อเที่ยวบิน และชั้นธุรกิจเพิ่มเป็น 40 กิโลกรัม ต่อเที่ยวบิน (สำหรับการเดินทางตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม – 31 ธันวาคม 2565) รวมทั้งโปรแกรมสะสมไมล์รอยัล ออร์คิด พลัส มอบโบนัสไมล์พิเศษให้กับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ 1,000 ไมล์ต่อเที่ยวบิน และชั้นประหยัด 500 ไมล์ต่อเที่ยวบิน (สำหรับการเดินทางตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2565 *เงื่อนไขเป็นไปตามกำหนด)
การเปิดเส้นทางบินตรงสู่เจดดาห์ในครั้งนี้ การบินไทยพร้อมให้บริการด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และการรับรู้ด้วยหัวใจ เริ่มตั้งแต่ ผู้โดยสารสามารถจองบัตรโดยสารและเช็คอินได้รวดเร็ว โดยผ่านระบบออนไลน์ ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ สมาชิกรอยัลออร์คิด พลัส บัตรแพลทินัมและบัตรทอง สามารถสั่งจองอาหารล่วงหน้าด้วยบริการ Pre Select Meal และอิ่มอร่อยกับรสชาติอาหารสุดพิเศษที่ผลิตโดยครัวฮาลาลของการบินไทย ซึ่งมีขั้นตอนการประกอบอาหารเป็นไปตามหลักของศาสนาอิสลาม ได้รับการรับรองมาตรฐาน HAL-Q รวมทั้ง เมนูกาแฟสูตรพิเศษ Black Silk Blend จิบคู่กับช็อกโกแลตกานเวลา (KANVELA) ซึ่งให้บริการในชั้นธุรกิจ นอกจากนั้นการบินไทยยังมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้น กับโปรแกรมท่องเที่ยวของทัวร์เอื้องหลวง (Royal Orchid Holiday) ที่นำเสนอแพ็คเกจพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบียแบบเจาะลึก รวมทั้งทัวร์ท่องเที่ยวจอร์แดน อียิปต์ รวมถึงประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางอีกด้วย
การบินไทย ทำการบินเส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เจดดาห์ สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน โดยทำการบินทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ เริ่มวันที่ 19 สิงหาคม 2565 โดยมีรายละเอียดเที่ยวบิน ดังนี้
- เที่ยวบินที่ ทีจี 503 เส้นทาง กรุงเทพฯ – เจดดาห์ ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 18.45 น. ถึงเจดดาห์ เวลา 22.40 น. (เวลาท้องถิ่น)
- เที่ยวบินที่ ทีจี 504 เส้นทาง เจดดาห์ – กรุงเทพฯ ออกจากเจดดาห์ เวลา 00.40 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ เวลา 13.10 น.
ผู้โดยสารสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม รายละเอียดตารางบิน พร้อมทั้งสำรองที่นั่งและออกบัตรโดยสารได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com สำนักงานขายการบินไทย และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 (ตลอด 24 ชั่วโมง) หรือที่อีเมล [email protected]
ซาอุดีอาระเบีย เป็นประเทศในดินแดนอาหรับที่มีขนาดใหญ่ และเป็นประเทศเดียวที่มีชายฝั่งติดทั้งทะเลแดง (Red Sea) และอ่าวเปอร์เซีย (Persian Gulf) มีสถานที่ท่องเที่ยวและสถาปัตยกรรมที่สวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้ง เป็นประเทศที่มีสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ประชากรส่วนใหญ่มีรายได้สูง เป็นปัจจัยส่งเสริมสำคัญต่อความนิยมเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ชาวซาอุดีอาระเบียนิยม เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ตลอดจนความนิยมเดินทางเข้ามารักษาพยาบาล เจดดาห์ เป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของซาอุดีอาระเบีย ได้รับการขนานนามว่าเป็นประตูสู่เมกกะ (Mecca Gate) มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย อาทิ น้ำพุกษัตริย์ฟาฮัด (King Fahad’s Fountain) เป็นน้ำพุที่พุ่งสูงกว่า 305 เมตร สามารถมองเห็นได้จากเกือบทุกมุมของเมือง ตอนกลางคืนจะสว่างไปด้วยแสงสีสวยงาม ย่านเมืองเก่าเจดดาห์อัลบาลัด (Al Balad) ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าของเจดดาห์ก่อนยุคน้ำมันเฟื่องฟูในปี 1970 ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมโบราณและอาคารแบบดั้งเดิมที่สร้างโดยใช้หินปะการัง และตกแต่งด้วยหน้าต่างไม้ขัดแตะที่สวยงาม และได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นแหล่งมรดกโลก และถนนเลียบทะเล (Corniche) ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และพาวิลเลียนต่างๆ ทอดตัวยาวไปตามริมทะเลยาวกว่า 30 กิโลเมตรซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสทัศนียภาพอันงดงามของทะเลแดง ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก นอกจากนั้น เจดดาห์ยังเป็นเมืองที่ผู้คนนิยมเดินทางเพื่อเชื่อมต่อไปสู่นครเมกกะ
เมดินะห์ และเมืองอื่นๆ ในตะวันออกกลางได้อย่างสะดวก
ที่มา: การบินไทย