ใครที่เป็นสาย ‘แซ่บ’ ห้ามพลาดร้านนี้ “ระฆังทอง น้ำปลาหวาน” ของขึ้นชื่อตลาดโต้รุ่งนครปฐม ที่ต่อคิวยาวรอซื้อกันเลยทีเดียว และพลาดไม่ได้กับสถานที่เช็คอิน กิน เที่ยว ถ่ายรูป ใน จ.นครปฐม ที่มาถึงแล้วไม่ควรพลาด คลายล็อกดาวน์เมื่อไหร่ต้องไปในทันที
อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อที่ใครมา จ.นครปฐม ต้องไปซื้อทานให้ได้ต้องร้านนี้ “ระฆังทอง น้ำปลาหวาน” เจ้าของ คือ คุณมยุรฉัตร แพร่อ่ำภา (คุณยุ) เล่าถึงธุรกิจร้านน้ำปลาหวานว่า ตนเริ่มจากร้านขายฝรั่ง และมะม่วงน้ำปลาหวานเพื่อหารายได้ระหว่างเรียน ซึ่งสูตรน้ำปลาหวานได้มาจากทางครอบครัวของสามี ตั้งโต๊ะเล็กๆ ขาย จนมะม่วงน้ำปลาหวานเริ่มขายดีจึงหันมาขายแต่มะม่วงน้ำปลาหวานอย่างเดียว และพัฒนามาเป็นรถ food truck จนปัจจุบันขายมาแล้วกว่า 10 ปี
ถามว่า “ระฆังทอง น้ำปลาหวาน” มีความพิเศษโดดเด่นอย่างไร คุณยุ บอกว่า เครื่องแน่น หอมแดงซอยจัดเต็ม กุ้งทั้งเล็ก-ใหญ่เต็มกระปุก กับรสชาติหวานเค็มเผ็ดที่ลงตัว นอกจากเมนูน้ำปลาหวานแล้ว ยังมี กะปิน้ำ กะปิแห้ง ให้เลือกทานแบบหลากหลาย ในส่วนของมะม่วง เลือกมะม่วงที่รสชาติดี ไม่เปรี้ยวมาก ได้แก่ มะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้น เดือน 9 และมะม่วงน้ำดอกไม้ที่แก่จัด ซึ่งการเลือกมะม่วงมาขายจะต้องคัดสรรเป็นอย่างดีให้ความสำคัญพอๆ กับการทำน้ำปลาหวาน
โดยราคาจำหน่ายน้ำปลาหวานเริ่มต้นที่ 30 – 70 – 100 บาท ส่วนเซ็ตน้ำปลาหวานพร้อมมะม่วง ราคา 50 บาท เมนูเด็ดยอดนิยมที่ลูกค้ารอต่อคิวซื้อ คือ น้ำปลาหวาน กะปิหวาน ยอดขายไม่ต่ำกว่า 150 กระปุกต่อวัน นอกจากนี้ยังมีจำหน่ายแบบออนไลน์ส่งทั่วประเทศ (facebook : ระฆังทองมะม่วงน้ำปลาหวาน) ซึ่งน้ำปลาหวาน กะปิหวาน สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 15 วัน
ใครที่สนใจหรือมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยว จ.นครปฐม สามารถแวะไปลองทานได้ที่ ตลาดโต้รุ่ง โซนตลาดร้านค้าภาคกลางคืน เปิดขายตั้งแต่ 17.00 – 21.00 น. facebook : ระฆังทองมะม่วงน้ำปลาหวาน หรือ โทร.08-5999-9021
มานครปฐมทั้งทีกินของแซ่บแล้ว พลาดไม่ได้ต้องแวะเที่ยวรอบเมืองด้วย โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากตลาดโต้รุ่ง คือ “วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร” ที่คนส่วนใหญ่นิยมมานมัสการ องค์พระปฐมเจดีย์ ขนาดใหญ่ รูประฆังคว่ำ เป็นที่เคารพสักการบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก และอีกหนึ่งวัดที่ต้องมาคือ “วัดไร่ขิงพระอารามหลวง” กราบสักการะ หลวงพ่อวัดไร่ขิง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครปฐม และยังสามารถเดินเที่ยวช้อปของกินของฝากละลานตาถูกใจที่ “ตลาดน้ำดอนหวาย”
อีกหนึ่งตลาดน้ำที่ขาเที่ยวต้องมาย่ำคือ “ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง” ตลาดแนวพักผ่อนเชิงธรรมชาติ สามารถมาชมบัวแดงได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญ ดอกบัวของทุ่งบัวแดง ณ บางเลน แห่งนี้ ไม่ว่าจะมาเที่ยวในเวลาไหนก็จะเห็นบัวบานได้ตลอดทั้งวัน ภายในตลาดน้ำมีร้านค้าขายอาหารทั้งคาวหวานให้ได้เลือกซื้อหามากมาย พร้อมบริการนั่งเรือชมทุ่งบัวแดงแบบใกล้ๆ อีกทั้งมีมุมน่ารักๆ ให้เลือกถ่ายรูปมากมายอีกด้วย
ส่วนใครที่มองหาร้านอาหารติดริมน้ำในบรรยากาศอบอุ่น แนะนำ “มีน้ำคาเฟ่@เพาะฟาร์มรัก” ที่นี่มีอาหารเรียกน้ำย่อยให้เลือกทานหลากหลายไม่ว่าจะเป็น สเต็ก สปาเก็ตตี้ สลัดผัก กาแฟสด น้ำผสมไม้ เล้งแซ่บ ยำบก กุ้งทอดพริกเกลือ เป็นต้น เหมาะแก่การนั่งชิลทานอาหารกับบรรยากาศลมพัดเย็นสบายริมน้ำ หากยังไม่จุใจแนะนำ “ครัวระเบียงโรงนา” ร้านอาหารไทยสไตล์รีสอร์ท ติดริมน้ำ บรรยากาศดี มีความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น ร้านอาหารไทยสไตล์รีสอร์ท เมนูอาหารส่วนใหญ่เน้นไปทางอาหารไทย ใครชอบทานอาหารไทยจะไม่ผิดหวังกับร้านนี้แน่นอน
นครปฐมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรและแหล่งเรียนรู้สำหรับคนรักกล้วยไม้ ในชื่อ “แอร์ ออร์คิดส์ แอนด์ แล็บ ซุปเปอร์มาร์เก็ต กล้วยไม้” ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 250 ไร่ ภายใต้โรงเรือนและระบบการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้นานาพันธุ์ เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนรักกล้วยไม้ตัวยง ที่นี่ยังมี The Flask Cafe by Air Orchids คาเฟ่ที่ให้บริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมอีกด้วย นอกจากนี้ “ดูบัว คาเฟ่ ฟาร์ม” สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกหนึ่งที่ที่ต้องติดใจ ล้อมรอบด้วยบึงบัวกว้างใหญ่ ที่นี่มีคาเฟ่ ร้านอาหาร ฟาร์มสัตว์ บริการจักรยานและเรือถีบให้ปั่นเล่น รวมถึงมุมให้นั่งชิล ถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย เรียกได้ว่ามาที่เดียวเที่ยวคุ้มกันเลยทีเดียว
ส่วนใครที่มองหาที่พัก “ชวาลัน รีสอร์ท” อีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำ ด้วยบรรยากาศบ้านพักริมทะเลสาบตกแต่งด้วยสวนและไม้นานาพรรณ อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และกิจกรรมต่าง ๆ ให้เลือกทำภายในรีสอร์ทรับรองไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน
เรียกน้ำย่อยขนาดนี้ มีโอกาสแวะมานครปฐมต้องไล่เที่ยวให้ครบ จังหวัดนครปฐม ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่ไกลใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แล้วคุณจะพบที่เที่ยวครบรสในบรรยากาศที่หลากหลาย
ที่มา: พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น