เครือรัฐโดมินิกาจับมือญี่ปุ่นทุ่มงบ 27 ล้านดอลลาร์ฟื้นฟูแหล่งประมง

กระทรวงเศรษฐกิจสีน้ำเงินและสีเขียว เกษตรกรรม และความมั่นคงทางอาหารของรัฐบาลเครือรัฐโดมินิกา ได้ลงนามในสัญญาโครงการฟื้นฟูแหล่งประมงของเมืองโรโซและมาริโกต์ โดยได้รับเงินสนับสนุน 27 ล้านดอลลาร์แคริบเบียนตะวันออกจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) โครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการในเดือนกรกฎาคม 2564 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2565

เฟสแรกของโครงการประกอบด้วยการรื้อถอนโครงสร้างที่พังเสียหาย ต่อด้วยการสร้างขึ้นใหม่ การกันน้ำ และการซื้ออุปกรณ์ โดย Fidel Grant รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจสีน้ำเงินและสีเขียว เกษตรกรรม และความมั่นคงทางอาหาร กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างเครือรัฐโดมินิกากับญี่ปุ่นจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนในโดมินิกา  

“การลงทุนในภาคส่วนใดภาคส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจส่งผลต่อทุกคนในโดมินิกา โดยถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกแบบโดมิโนสำหรับประชาชนทุกคนในประเทศ” เขากล่าวกับ CS Global Partners “การร่วมลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงช่วยเหลือชาวประมงและผู้ขายปลาโดยตรงเท่านั้น แต่ในระหว่างการก่อสร้างยังช่วยสร้างงานให้กับแรงงานและผู้รับเหมาก่อสร้างในท้องถิ่นด้วย นอกจากนี้ ร้านอาหาร โรงแรม และรีสอร์ตก็ได้รับประโยชน์โดยตรง เพราะจะได้รับปลาอย่างสม่ำเสมอไม่ขาดแคลน ส่วนนักท่องเที่ยวก็จะได้รับประทานปลาสด ๆ ในพื้นที่ รัฐบาลเครือรัฐโดมินิการู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ริเริ่มโครงการนี้”

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางกระทรวงฯ ได้ลงนามในสัญญามูลค่าเกือบ 4.5 ล้านดอลลาร์แคริบเบียนตะวันออก ร่วมกับบริษัทสองแห่ง เพื่อจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตรสำหรับแจกจ่ายให้แก่เกษตรกร โดยทั้งสองโครงการที่กล่าวถึงข้างต้นมุ่งช่วยเหลือชาวประมงและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนมาเรีย ในการฟื้นฟูชีวิตและใช้แนวทางปฏิบัติเพื่อรับมือกับสภาพภูมิอากาศ

อีกหนึ่งภาคส่วนที่สร้างรายได้และช่วยฟื้นฟูภาคการเกษตรของโดมินิกาก็คือ โปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ Citizenship by Investment (CBI) Programme ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถขอสัญชาติที่สองเพื่อการเดินทางที่คล่องตัวมากขึ้นและโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้น ทั้งยังมีที่พำนักสำรองยามเกิดวิกฤต โดยผู้ที่ลงทุน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐในกองทุน Economic Diversification Fund ของรัฐบาลจะได้รับสัญชาติโดมินิกา พร้อมสิทธิในการทำงาน เรียน และพักอาศัยในประเทศที่ได้รับการขนานนามว่า “Nature Isle of the Caribbean”

รายงานปี 2562 ที่รวบรวมโดย PWC ระบุว่า ในช่วงปี 2557/58 ถึง 2561/62 เงินทุนที่มาจากโปรแกรม CBI รวม 29.7 ล้านดอลลาร์แคริบเบียนตะวันออก ได้รับการจัดสรรให้แก่ภาคการเกษตรและการประมงผ่าน 32 โครงการ “โครงการส่วนใหญ่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการผลิตและความมั่นคงทางอาหาร โดยเน้นเป็นพิเศษไปที่การปลูกกล้วย กาแฟ และโกโก้ นอกจากนี้ อัตราการจ้างงานเกษตกรและชาวประมงก็เพิ่มขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากโครงการฝึกอาชีพและการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ”

ทั้งนี้ นักลงทุนและครอบครัวสามารถลงทุนเพื่อขอสัญชาติอย่างปลอดภัย และส่งต่อสัญชาติใหม่ให้แก่ลูกหลานได้

ติดต่อ: อีเมล: [email protected] เว็บไซต์: www.csglobalpartners.com

ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ