ห้องอาหาร ยามาซาโตะ (Yamazato) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ห้องอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับ ‘มิชลิน เพลท’ (MICHELIN Plate) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จาก ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2564 ฉบับ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา จัดอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับชุดพิเศษสำหรับร่วมฉลองเทศกาล “เซ็ตสึบุน” ในทุกๆปี ให้บริการทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ระหว่างวันที่ 1 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2564
“มิชลิน เพลท” ตามความหมายของ ‘มิชลิน ไกด์’ หมายถึงร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ปรุงอย่างพิถีพิถัน โดยใน ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2564 ฉบับ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา นั้น มีรายชื่อร้านอาหารญี่ปุ่นที่ให้บริการอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและได้รับสัญลักษณ์ “มิชลิน เพลท” เพียง 7 แห่ง และทั้งหมดตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ โดยห้องอาหารยามาซาโตะยังคงเป็นห้องอาหารญี่ปุ่นในโรงแรมเพียงแห่งเดียวที่ได้รับ “มิชลิน เพลท” จาก ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2564 ฉบับ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา
เทศกาล “เซ็ตสึบุน” ของประเทศญี่ปุ่นตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี แต่ในปีนี้เทศกาล “เซ็ตสึบุน” ตามปฏิทินญี่ปุ่นเลื่อนเร็วขึ้น 1 วัน ในปีนี้ชาวญี่ปุ่นจึงจะฉลอง เทศกาล “เซ็ตสึบุน” ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นวันก่อนเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ
เทศกาล “เซ็ตสึบุน” มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเทศกาลปาถั่วมงคล (ถั่วแดงอะซุกิ) ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคลและโชคดี และช่วยขับไล่สิ่งไม่ดีออกไป เชฟชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara) หัวหน้าพ่อครัว (Master Chef) ประจำห้องอาหาร ยามาซาโตะ เชฟชาวญี่ปุ่นมากประสบการณ์ ได้เตรียมอาหารชุดพิเศษมื้อกลางวันและมื้อค่ำไว้คอยให้บริการเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้เป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้อาหารชุดมื้อกลางวันประกอบไปด้วย หอยลายญี่ปุ่นกับกุ้งราดซอสมิโซะเสิร์ฟเย็น ซุปใสเกี๊ยวกุ้ง เห็ดชิเมะจิและผักต่างๆ ปลาดิบชั้นดี 3 ชนิด (ปลาทูน่า ปลาหางเหลือง หอยปีกนก) ปลาแมคเคอเรลสเปนย่างราดไข่ปลาแซลมอนกับต้นหอมญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมกับมันหวานญี่ปุ่นและดอกขิงญี่ปุ่นดอง ตามด้วยเต้าหู้ญี่ปุ่น “โคยะ” ตุ๋นกับปลาซาร์ดีน ขิง เผือกและแครอท เทมปุระกุ้ง ปลาทราย และผักนานาชนิด และเมนูสำคัญที่ขาดไม่ได้ในเทศกาล “เซ็ตสึบุน” คือ เอะโฮ มากิ (Ehomaki) ซึ่งเป็นข้าวห่อสาหร่ายไส้รวมที่ไม่ได้ตัด ที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าจะต้องรับประทานให้หมดในคำเดียวเพื่อความมงคลก่อนวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น และเวลารับประทานจะต้องหันหน้าไปทางทิศรับโชคประจำปี ซึ่งในปี 2564 คือทิศตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนขนมหวานให้บริการขนมญี่ปุ่นโดรายากิไส้ถั่วแดงและเกาลัดราดซอสชาเขียว กับผลไม้รวม อาหารชุดมื้อกลางวัน ราคาชุดละ 1,600++ บาท
ส่วนมื้อค่ำ ให้บริการอาหารชุด “ไคเซกิ” ตามแบบราชสำนักญี่ปุ่น ประกอบด้วยอาหาร 8 รายการ เริ่มต้นด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย ตับปลามังค์ฟิช กุ้ง เห็ดไมตาเกะ และถั่วปากอ้าญี่ปุ่นราดซอสปรุงพิเศษ ซุปลูกชิ้นไข่ปลาคอดใส่เห็ดและผักต่างๆ ปลาดิบชั้นดี 4 ชนิด (ทูน่า ปลาหางเหลือง หอยทากทะเล และกุ้งหวาน) ปลาหิมะ และเนื้อย่างราดซอสครีมผสมสาหร่ายทะเล ฟองเต้าหู้สดตุ๋นกับปลาซาดีน ขิง ถั่วเหลือง และผักหลายชนิด เทมปุระปูหิมะ ปลาเงิน เห็ดชิทาเกะ หน่อไม้ฝรั่งและมันม่วง เส้นหมี่น้ำญี่ปุ่นหน้าหอยลายญี่ปุ่น และที่ขาดไม่ได้คือเอะโฮ มากิ หรือ ข้าวห่อสาหร่ายไส้รวมคำโต ปิดท้ายอาหารชุดมื้อค่ำชุดพิเศษนี้ด้วยขนมหวานญี่ปุ่นวาราบิโมจิราดน้ำเชื่อม อาหารชุดมื้อค่ำ ราคาชุดละ 4,700++ บาท
อาหารญี่ปุ่นต้นตำรับชุดพิเศษสำหรับร่วมฉลองเทศกาล “เซ็ตสึบุน” มีให้บริการทุกวันที่ห้องอาหารยามาซาโตะ ระหว่างวันที่ 1 – 28 กุมภาพันธ์ 2564 มื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 11.30 น ถึง 14.30 น. และมื้อค่ำตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น.
นอกจากนั้น เชฟฮางิวาระ ยังเปิดให้สั่ง เอะโฮ มากิ เพื่อนำไปรับประทานที่บ้าน ในราคาสุทธิชิ้นละ 300 บาท โดยสามารถสั่งจองเอะโฮ มากิ ล่วงหน้าได้จนถึงวันที่ 30 มกราคม 2564 และรับเอะโฮ มากิ ได้ที่ห้องอาหารยามาซาโตะ ในวันที่ 1 หรือ 2 กุมภาพันธ์ 2564 ระหว่างเวลา 14.00 น. – 21.00 น.
ห้องอาหารยามาซาโตะ ตั้งอยู่ที่ชั้น 24 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ 02 687 9000 หรือ [email protected] หรือที่เว็บไซต์ www.okurabangkok.com
ราคาอาหารชุดมื้อกลางวันและมื้อค่ำยังไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ส่วนราคาเอะโฮ มากิสั่งกลับบ้านเป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เรียบร้อยแล้ว
ที่มา: โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ