การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเปิดตัวแคมเปญ Let’s Getaway เชิญนักท่องเที่ยวกลุ่มหันมาเที่ยวเมืองไทยแบบลักซ์ชัวรี หลังโควิด 19 ที่รูปแบบการท่องเที่ยวจะไม่เหมือนเดิม คุณนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “ททท. โฟกัสกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ พร้อมออกเดินทางเป็นกลุ่มแรกไปสัมผัสประสบการณ์พักผ่อนสุดหรู หลังจากอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติมาตลอดระยะเวลาหลายเดือน ให้ลองหันมาเที่ยวเมืองไทยรับรองว่าลักซ์ชัวรีไม่แพ้ที่ไหนในโลกเลย” ททท. จึงจัดเส้นทาง 9 เดสติเนชั่น ทั้งภูเก็ต เขาใหญ่ เชียงราย เป็นต้น ให้นักท่องเที่ยวกลุ่มต่าง ๆ ได้เที่ยวกันถึงกันยายนนี้ โดยมีสายการบินไทยสมายล์สนับสนุนเส้นทาง
คุณชลิตา ลีลายุทธ CEO สายการบินไทยสมายล์ที่บินภายในประเทศไทยรวม 10 จังหวัด มี 25 เที่ยวบินต่อวัน กล่าวว่า “กลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมการท่องเที่ยวแบบลักซ์ชัวรี ถือเป็นกลุ่มที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในการที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้มากขึ้น เพราะเมืองไทยมีที่เที่ยวเยอะมาก”
ททท.ได้เปิดเผยทริปสุดเอ็กซ์คลูซีพของททท. ที่นำทีมโดยคุณเปิ้ล-ชลิตา ลีลายุทธ และเพื่อน ๆ ในกลุ่มสถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.13) เช่นคุณนิตย์สินี จิราธิวัฒน์ คุณปิยะมาน เตชะไพบูลย์ คุณอัฐ ทองแตง เป็นต้น พร้อมครอบครัวรวมกว่า 30 ท่าน เดินทางสู่ภูเก็ต เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน กับสายการบินไทยสมายล์ที่แสนสะดวก และเดินทางต่อแบบสบาย ๆ ด้วยรถหรูมินิโค้ช Mercedez Benz Sprinter 3 คันจาก Ture Leasing เข้าสู่ที่พัก
แน่นอนว่าที่พักก็ต้องเป็นแบบเอ็กซ์คลูซีฟอย่างมีสไตล์ ซึ่งจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจากที่ AMANPURI ที่อยู่เคียงคู่ภูเก็ตมานานถึง 35 ปีแล้วและยังความสงบสุดหรูด้วยเอกลักษณ์ของหมู่อาคารทรงไทยที่เรียงรายเล่นระดับขึ้นไปบนเนินเขาและซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม มองลงมาเบื้องล่าง คือสระว่ายน้ำที่ปูกระเบื้องสีดำสะท้อนเงาของทิวมะพร้าวบนผืนน้ำที่ยังคงความงาม แม้เราจะพักในพลูวิลล่าแต่การมานั่งชื่นชมวิวของสระว่ายน้ำหลักและทะเลสีเขียวที่ซัดคลื่นอยู่เบื้องล่าง คือการเข้าสู่โหมดของการพักผ่อนแบบสงบนิ่งอย่างแท้จริง
ทีมของเรานับเป็นคณะแรกที่ฝ่า Covid-19 มาให้กำลังใจและสนับสนุนการท่องเที่ยวภูเก็ตให้ฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ อาหารมื้อแรกจึงต้อนรับด้วย Phuket Brunch ที่รวบรวมประดาของอร่อยจากร้านดังในภูเก็ตมาให้ลิ้มรสกันอย่างเต็มอิ่มในห้องอาหารริมสระว่ายน้ำของอมันปุรี มีทั้งขนมจีนแกงปู แกงกั้ง แกงไตปลา น้ำพริกกุ้งเสียบ หมูฮ้อง ห่อหมก ปลามงทอด และอื่น ๆ อีกมากมาย สมกับที่เป็น City of Gastronomy นี่เป็นเพียงแค่มื้อแรกเท่านั้น สมาชิกทุกคนต่างอิ่มตื้อมีความสุข ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปย่อยอาหารตามอัธยาศัย บางก๊วนแยกไปตีกอล์ฟ บ้างก็เข้าคลาส Super Stretching ในยิม บ้างก็ลงเล่นน้ำที่ชายหาด น้ำใสสะอาดมากหลังจากทะเลอันดามันได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะมารวมตัวอีกครั้งหนึ่งในช่วงน้ำชายามบ่าย เพลิดเพลินกับขนมครกที่เสิร์ฟในศาลาไทยริมสระว่ายน้ำหลัก ขนมครกแคะกันสด ๆ แป้งบางกรอบร้อน ๆ มีหลายหน้าให้เลือกทั้งเค็มและหวาน ตามชอบ อร่อยมากจนอดใจกันไม่ไหว ชิมกันไปคนละหลายคู่
ตกเย็นเราไปเยือนโรงแรม Anantara Layan โดยมีคุณบิล ไฮเนคกี้ ผู้เป็นเจ้าของ และภรรยารอต้อนรับอย่างเป็นกันเองอยู่ที่วิลล่าหรูขนาด 7 ห้องนอน ที่มองเห็นวิวงดงามของทะเลท่ามกลางความเขียวชอุ่มของอุทยานแห่งชาติสิรินาถ การเป็นเจ้าของวิลล่าหรูริมทะเลกำลังเป็นเทรนด์ที่ดีของการลงทุน นอกจากจะมีที่พักส่วนตัวให้มาใช้พักผ่อนตามใจในช่วงเวลาไหนก็ได้แล้ว ยังสามารถให้ทางโรงแรมบริหารจัดการหาผู้เช่าในช่วงที่เจ้าของไม่ได้มาพักอีกด้วย เพราะเซเลบริตี้และผู้นำระดับโลกต่างนิยมมาพักผ่อนในวิลล่าที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าโรงแรม ราคาของวิลล่าริมทะเลจึงมีแต่จะสูงขึ้น ๆ เรื่อย ๆ จึงเป็นที่จับตาของนักลงทุน
โดยมื้อเย็น เราไปรับประทานอาหารตะวันตกที่ห้องอาหาร The Age ของโรงแรมอนันตรา ลายัน อาหารอร่อยมาก ท่านกลางการพูดคุยและเสียงหัวเราะของเพื่อนฝูง มื้อนี้คุณบุญยง ตันสกุล เจ้าของธุรกิจอาหาร Zen กรุ๊ปและแบรนด์อื่น ๆ อีกร่วม 15 แบรนด์ ถึงกับเอ่ยชมว่า “เนื้อโกเบอร่อยมาก นุ่มละลายในปาก”
การมาเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ นอกจากจะได้ใช้เวลาพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูง อัพเดตชีวิตและธุรกิจการลงทุนกันแล้ว ถ้ามีครอบครัวมาด้วยนับเป็นการใช้เวลาพักผ่อนอย่างคุ้มค่า
คุณเจี๊ยบ-พัชรีภรณ์ วิกิตเศรษฐ์ หนึ่งใน Amanjunkie ที่มาพร้อมลูกชายและลูกสาวกล่าวว่า “เราเป็นกลุ่มย่อยที่สนิทกันอยุ่แล้ว และไปเที่ยวด้วยกันบ่อย ได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันและมีเวลาให้กับครอบครัวด้วย ก็ครบ ทั้งสถานที่ดี อาหารดี และเป็นบรรยากาศที่น่าจดจำ”
เช้าวันต่อมาเราเริ่มอุ่นเครื่องด้วย Yoga Lauht หรือโยคะหัวเราะ ได้คอนเซปต์จากชาวอินเดียที่พบว่าผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ป่วยที่เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้มักมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย จึงหาทางช่วยให้เคลื่อนไหวโดยคิดโยคะหัวเราะขึ้นมาเป็นการฝึกการหายใจเข้า กลั้นหายใจและหายใจออก ก็ค่อย ๆ ผ่อนออกมาเหมือนจังหวะการหัวเราะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นการฝึกโยคะโดยให้มีความคิดเชิงบวก และที่สำคัญคือ ได้ฝึกการหายใจเข้า ออก ทุกคนได้หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน และได้ความรู้ใหม่อีกว่า ร่างกายของเราไม่รู้ว่าเราหัวเราะจริงหรือแกล้งหัวเราะ การหัวเราะทำให้เรารู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กใหม่ ผลที่ได้คือ ความสุข
โดยเราได้เข้าไปเยี่ยมภูเก็ตในย่านเมืองเก่า ซึ่งสายเที่ยวที่สนใจอาจจะตามรอยร้านเด็ดได้ตามรายละเอียด ดังนี้
Travel Tips
– “ตู้กับข้าว” ร้านอาหารใต้รสดั้งเดิม อบอุ่นในตึกเก่ากว่าร้อยปี โดดเด่นด้วยเมนู หมูฮ้อง น้ำพริกปลาฉิ้งฉ้าง แกงปูใบชะพลู แกงส้มยอดมะพร้าวปลากะพง ต้มส้มภูเก็ตปลาย่าง 0-7660-8888
– “หนมจีนภูเก็จ” ลิ้มรสวัฒนธรรมการกินขนมจีนแบบภูเก็ตกับแกงกั้ง แกงปู แกงไตปลา น้ำชุบหยำ แกล้มผักแบบจัดเต็ม และห่อหมกรสชาติดั้งเดิม โทร. 08-1895-9430
– “แพเส-เป็ด” ร้านอาหารที่แหลมหิน นั่งเรือออกไป 5 นาทีชมวิวธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยทะเลและกระชังปลา มีอาหารสด ๆ เป็น ๆ จากทะเล เช่น ปลาเก๋าต้มเต้าเจี้ยว หอยหวานผัดผงกระหรี่ กุ้งลายเสือผัดซอสมะขาม โทร. 08-8135-4546
– “Torry’s” ร้านไอศกรีมโฮมเมดแบบพรีเมียมในตึกเก่าสีชมพูพาสเทลกลางซอยรมณีย์ มีเมนูไอศกรีมที่สร้างสรรค์สุด ๆ ทั้งรสชาติและหน้าตา เช่น Bi-Co-Moi ไอศกรีมกระทิอัญชันกับข้าวเหนียวดำ Black Sesame Ice Cream & Keemun ไอศกรีมน้ำเต้าหู้หอมงาดำกับขนมขี้มัน O-aew Sorbet & Jelly ขนมพื้นเมืองโอ้เอ๋วนำมาทำเป็นไอศกรีม เพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วยวุ้นโอ้เอ๋วและถั่วแดง โทร. 0-7651-0888
– พบข้อเสนอพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2563 ที่ www.letsgetaway.asia
เราเริ่มต้นมื้อกลางวันในร้านอาหาร “ตู้กับข้าว” ที่กำลังฮิตในเวลานี้ นอกจากจะอยู่ในอาคารเก่าที่ได้รับการบูรณะจนสวยงามแล้ว อาหารยังอร่อยมาก ๆ โดยเฉพาะหมูฮ้องที่ต้องยกนิ้วให้เลย ว่าอร่อยมากที่สุดเจ้าหนึ่งในภูเก็ต ด้วยผ่านการเคี่ยวมาจนเปื่อยนุ่มและแน่นไปด้วยเครื่องเทศ กินแกล้มน้ำพริกปลาฉิ้งฉ้างรสจัดได้ดี พร้อมซดแกงส้มยอดมะพร้าวใส่ปลากะพง อร่อยจนต้องเติมข้าวกันไม่หยุดก่อนจะเดินย่อยอาหารชมเมืองเก่าที่ได้รับการบูรณะทาสีสันสวยงาม
ความงดงามของภูเก็ตในทุกวันนี้ สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตกว่าร้อยปีที่ต้องยกย่องคหบดีชื่อดังทั้งพระอร่ามสาครเขตร (ต้นตระกูลตัณทัยย์) และพระพิทักษ์ชินประชา (ต้นตระกูลตัณฑวณิช) ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน และได้สร้างความเจริญให้กับภูเก็ตมากมาย พระอร่ามเรียนจบจากปีนัง และเป็นคนแรกที่นำรถยนต์เข้ามาใช้ในเกาะภูเก็ต และนำสถาปัตยกรรมชิโน-โปรตุกีสเข้ามาสู่ภูเก็ต จนทำให้ภูเก็ตมีบ้านเรือนสวยงามมากมายจนเป็นเอกลักษณ์ บ้านของพระอร่ามปัจจุบัน คือที่ทำการบริษัทการบินไทยนั่นเอง จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ส่วนบ้านของพระพิทักษ์ชินประชา ก็คือบ้านชินประชา ที่มีสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส และมีอายุกว่าร้อยปี
สถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีสมีอิทธิพลต่อโครงสร้างของเมืองภูเก็ตมาก เมื่อเดินไปตามถนนต่าง ๆ ในย่านเมืองเก่าจึงพบแต่ความงดงามทางศิลปะและประวัติศาสตร์ ยิ่งปัจจุบันเมืองเก่าได้รับการบูรณะอย่างเต็มที่ จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องมาเยือนบางแห่งปรับเป็นโรงแรม เช่น โรงแรมหวู หรือร้านอาหาร อย่าง ไซน่าอินน์ เป็นต้น
โรงแรมหวู หรือ WOO Gallery and Boutique Hotel โรงแรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ที่เป็นสถาปัตยกรรมผสมระหว่างยุโรปและจีน เดิมที่เป็นที่อยู่อาศัยและร้านค้า ชื่อ หม่อเส้งแอนด์โก จำหน่ายนาฬิกาและสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ปัจจุบันเจ้าของเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ที่ได้มุ่งมั่นบูรณะโดยคงความเป็นประวัติศาสตร์ไว้ให้ได้มากที่สุด ปัจจุบันเป็นทั้งโรงแรมและพิพิธภัณฑ์
บ้านเก่าอายุกว่าร้อยปีนี้มีโครงสร้างยึดถือตามแบบโบราณ ทางเข้าเป็นปากมังกร มีคิ้ว 4 มุม สร้างแบบที่ไม่มีประตูไหนที่ตรงกับประตูหน้าบ้านเลย ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่าสไตล์วิกตอเรียน และเครื่องกระเบื้องสไตล์เปอรานากัน ที่มีสีสันและลวดลายงดงาม อันมีเฉพาะในแถบนี้เท่านั้น เช่น ลายนกฟีนิกซ์ หรือวายุภักษ์
ส่วน ไชน่าอินน์ เคยเป็นบ้านของพระพิทักษ์ชินประชา อยู่ที่ถนนถลาง เป็นบ้านแบบชิโน-โปรตุกีสเช่นกันที่ได้รับการบูรณะจนได้รับรางวัลมากมาย โดดเด่นด้วยประตูจีนเก่าตรงทางเข้า แล้วนำสายตาเข้ามาด้วยพื้นกระเบื้องเก่าลวดลายงดงาม ด้านในมีสวนสวย เหมาะกับการนั่งจิบชากับขนมพื้นบ้านภูเก็ตที่ทำกันมาร่วมร้อยปี
ทริปภูเก็ตครั้งนี้จึงถึงพร้อมทั้งความลักซ์ชัวรี และสัมผัสอดีตที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองและตกทอดมาให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมถึงทุกวันนี้
ทั้งนี้ ภูเก็ต ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกว่า เป็นเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหาร หรือ City of Gastronomy เมืองแรกของประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน จากเอกลักษณ์ของความหลากหลายวัฒนธรรมสู่อัตลักษณ์ของรสชาติอาหารสูตรลับเฉพาะที่ถ่ายทอดผ่านคนในครอบครัวและสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาชิม